หลังจากที่ OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno3 Pro 5G ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาในประเทศจีนไป ในตอนนี้ทางบริษัทก็ได้เปิดตัวรุ่น 4G ของเจ้า Reno 3 Pro ออกมาแล้วที่ประเทศอินเดีย โดยมันจะมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้วที่มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 91.5% จากการที่มันมีกล้องหน้าคู่แบบเจาะรูนั่นเอง ส่วนกล้องหลังของมันมีจำนวน 4 ตัวด้วยกัน

โดยกล้องหน้าทั้ง 2 ตัวประกอบด้วยเลนส์ 44MP + เลนส์ Portrait 2MP และกล้องหลัง 4 ตัวประกอบด้วยเลนส์ 64MP + เลนส์มุมกว้าง 8MP + เลนส์เทเล 13MP + เลนส์ 2MP ส่วนภายในตัวเครื่องจะใช้เป็นชิปเซต MediaTek Helio P95 (ที่แรงประมาณ Snapdragon 730) และ Ram 8GB

อีกทั้งเซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอของมันสามารถปลดล๊อกตัวสมาร์ทโฟนได้ในเวลาเพียง 0.34 วินาที และทางด้านของแบตเตอรี่ความจุ 4,025mAh นั้นรองรับการชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 4.0 30W ที่สามารถชาร์จแบตได้ 50% ได้ในเวลา 20 นาทีและชาร์จแบตได้ 100% ในเวลา 56 นาที

สเปคของ OPPO Reno 3 Pro

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) 20:9 Full HD+  ที่ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซต MediaTek Helio P95 12nm ที่ใช้การ์ดจอ IMG PowerVR GM 9446
  • RAM LPPDDR4x 8GB, storage 128GB / 256GB ที่ใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 256GB
  • ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7
  • กล้องหลัง 64MP (f/1.8), LED flash, เลนส์กว้าง 119.9° ความละเอียด 8MP (f/2.2), EIS, เลนส์เทเล 13MP (f/2.4) ที่ซูมแบบ optical ได้ 2x, ซูมแบบ hybrid ได้ 5x และซูมแบบ digital ได้ 20x, เลนส์โมโน 2MP (f/2.4) ที่มีเซ็นเซอร์ขนาด 1/5″, ขนาดพิกเซล 1.75um
  • กล้องหน้า 44MP (f/2.4) aperture, เลนส์สำหรับถ่าย portrait 2MP (f/2.4)
  • เซนเซอร์สแกนนิ้วแบบ In-display
  • รูแจ็ค 3.5mm, วิทยุ FM, Dolby Atmos, Hi-Res Audio
  • ขนาดตัวเครื่อง: 158.8 x 73.4 x 8.1mm; น้ำหนัก: 175g
  • Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS + GLONASS, USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 4025mAh ที่รองรับชาร์จไวแบบ VOOC Flash Charge 4.0 30W

เจ้า OPPO Reno 3 Pro จะมีให้เลือกในสี Auroral Blue, Midnight Black และ Sky White ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 29,990 รูปี (ประมาณ13,000บาท) ในรุ่น Ram 8GB + Storage 128GB และราคา 32,990 รูปี (ประมาณ14,300บาท) ในรุ่น Ram 8GB + Storage 256GB โดยจะวางขายในวันที่ 6 มีนาคมนี้

SOURCE

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares