ยุคที่สินค้าหลากหลายแบรนด์ผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการคนรุ่นใหม่ที่เน้นความคล่องตัว ความชาญฉลาด และความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันทั่วไป อย่างไรก็ตามคำว่า “ทั่วไป” ไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของ “ผู้บริโภคแบรนด์ลักซ์ชัวรี่” ที่พร้อมลงทุนซื้อของพรีเมี่ยมเพื่อตอบสนองรสนิยมและไลฟ์สไตล์เหนือระดับ โดยข้อมูลจากการวิเคราะห์ตลาดสินค้าหรูหราประจำปี 2023 ของ Global Web Index1 ชี้ชัดว่า 45% ของผู้ซื้อแบรนด์หรูจับตามองเทคโนโลยีและเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าแบรนด์ต่างๆ ยังคงต้องหาโอกาสที่จะขยายตลาดของตัวเองให้รองรับความต้องการของกลุ่มคนนี้ไปพร้อมกัน ล่าสุด หัวเว่ยได้เผยสมาร์ทวอทช์ที่เรียกได้ว่าเป็นขั้นสุดของเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่ที่หัวเว่ยเคยพัฒนามา คือ HUAWEI WATCH Ultimate สมาร์ทวอทช์ที่รังสรรค์ออกมาอย่างประณีต อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ระดับสูงสำหรับกิจกรรมของไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการเติมเต็มการใช้ชีวิตให้หรูหราขึ้นไปอีกขั้น

เหนือระดับไปกับการออกแบบและวัสดุที่แสดงถึงความเป็นเลิศ

ในงานเลี้ยงสังสรรค์หรือคุยงานธุรกิจ สมาร์ทวอทช์ที่หรูหราย่อมมีส่วนสำคัญในการเสริมลุค นับเป็นครั้งแรกของหัวเว่ยที่ประกอบ HUAWEI WATCH Ultimate ขึ้นด้วยตัวเรือนนวัตกรรมโลหะเหลวที่มีส่วนประกอบของเซอร์โกเนียมชั้นเยี่ยม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสุนทรียศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาไฮเอนด์ นอกจากจะมีผิวสัมผัสพรีเมียมแล้ว ยังมีความทนทานมากกว่าถึง 4.5 เท่า และแข็งกว่าถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับสเตนเลสสตีล เสริมความเหนือระดับยิ่งขึ้นไปอีกด้วยปุ่มควบคุม 3D Rotating Crown เสมือนปุ่มมงกุฎบนนาฬิกาหรู ใช้สำหรับควบคุมการใช้งานต่างๆ คู่กับปุ่ม Function และ ปุ่ม Assist ตัวเรือนประกบคู่กับหน้าปัดที่บางเฉียบแต่แข็งแรงยืดหยุ่นแบบ AMOLED เคลือบด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่แข็งแรง2 พร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถดูเวลาทั่วโลกได้ 24 เมืองหลักใน 24 ไทม์โซน อำนวยความสะดวกกับผู้ที่ต้องติดต่อธุรกิจกับต่างชาติ และการเดินทางต่างประเทศอยู่บ่อยๆ

ไม่ว่าคุณจะเป็นสายนักธุรกิจ หรือสายสปอร์ต HUAWEI WATCH Ultimate ก็พร้อมตอบโจทย์ด้วยสองดีไซน์ให้เลือก สี Voyage Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร ด้วยกรอบนาโนเทคเซรามิกสีน้ำเงินเข้ม เหมาะกับคนที่หลงใหลกิจกรรมทางน้ำ มาพร้อมสายโลหะไทเทเนียมอัลลอยที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา ด้านสี Expedition Black ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีใจรักการสำรวจโลก หรือการผจญภัยนอกคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง โดยกรอบสีดำเรียบหรูผลิตขึ้นจากนาโนเทคเซรามิก พร้อมตัวเลข tachymeter สำหรับจับอัตราความเร็ว ทั้งสองสีสามารถใช้สาย Hydrogenated Nitrile Rubber (HNBR) ที่สามารถใช้ได้เมื่อทำกิจกรรมที่สมบุกสมบันอย่างอิสระ

ยิ่งกว่านั้น ใครที่มองหาความพรีเมียมเหนือระดับขึ้นไปอีกขั้นสามารถเลือกเป็นเจ้าของ HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN รุ่นออกแบบพิเศษที่แสดงความเป็นผู้นำแห่งสมาร์ทดีไวซ์ด้วยตัวเรือนที่ทำจากทองอัลลอย 18K ที่มีส่วนผสมของทองคำ 75% พร้อมกรอบหน้าปัดที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการฝังชิ้นส่วนสีทองหกชิ้นดูหรูหรา เคลือบด้วยเทคโนโลยี PVD (Physical Vapor Deposition) และสลักตัวเลขสีทองโดดเด่น สายสเตนเลสสตีลของรุ่นพิเศษนี้ยังมีน้ำหนักเบาและปรับตามขนาดข้อมือได้ 12 ระดับ ด้วยตัวล็อคปีกผีเสื้อ ให้ความรู้สึกหรูหราและดูเป็นมืออาชีพ

ครบเครื่องเรื่องการตอบโจทย์งานอดิเรกอย่างอัจฉริยะ

HUAWEI WATCH Ultimate ได้รับการออกแบบให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ โดยเฉพาะคนที่มีงานอดิเรกสุดหรูอย่างการดำน้ำ การเดินป่า การปีนเขา รวมถึงการเล่นกอล์ฟ นอกจากการออกแบบตัวเรือนจะสะท้อนตัวตนของผู้ใช้แล้ว ฟีเจอร์ต่างๆ ก็พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ดังกล่าวโดยเฉพาะนักดำน้ำที่เดินทางไปสำรวจโลกใต้ทะเลทั้งในไทยและต่างประเทศ ย่อมต้องพึ่งความสามารถในการกันน้ำของสมาร์ทวอทช์คู่ใจ HUAWEI WATCH Ultimate มีเทคโนโลยีกันน้ำลึกถึง 100 เมตร3 โดยยังสามารถใช้ฟีเจอร์เสียงได้ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อนในสมาร์ทวอทช์โมเดลอื่นๆ โดยโครงสร้างกันน้ำทั้ง 16 โครงสร้างนั้นทำให้นาฬิกาทนทานต่อแรงดันอากาศในน้ำลึกได้ รับรองโดยมาตรฐาน ISO22810 และ EN133194 สำหรับอุปกรณ์ดำน้ำ และสามารถทนต่อการอยู่ใต้น้ำระยะ 100 เมตรได้ถึง 24 ชั่วโมง นอกจากการใช้งานใต้น้ำได้แล้ว ยังรองรับกิจกรรมดำน้ำด้วยโหมดการดำน้ำ (Diving Mode) ถึง 4 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมดดำน้ำแบบนันทนาการ (Recreational Diving) โหมดดำน้ำแบบเทคนิคอล (Technical Diving) โหมดฟรีไดฟ์ (Freedive) และโหมดดำน้ำลึก (Gauge) ทั้งยังสามารถดูการตั้งค่าฟรีไดฟ์ และค่า Gradient Factor ได้ โดยใช้อัลกอริทึมของ Bühlmann5 เพื่อตรวจจับและวิเคราะห์ข้อมูลการดำน้ำอย่างต่อเนื่อง และให้คำแนะนำตามสภาพแวดล้อมใต้น้ำแบบเรียลไทม์ โดยมีการแจ้งเตือนกว่า 20 แบบให้ผู้ใช้ปรับการทำกิจกรรมตามได้ง่าย

ด้านนักสำรวจ หรือนักวิ่งมาราธอน หรือวิ่งเทรล ฟีเจอร์การระบุทิศทาง จำเป็นต้องมีสมาร์ทวอทช์ที่สามารถระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม และมีฟีเจอร์สุขภาพที่รองรับกิจกรรมในสภาพแวดล้อมสุดโต่ง ซึ่ง HUAWEI WATCH Ultimate ได้อัดแน่นมาเต็มที่ โดยเฉพาะ Precision Dual-Frequency Five-System GNSS ที่รองรับสัญญาณดาวเทียมได้ถึง 5 ระบบ ในกรณีที่เดินทางอยู่ในแหล่งที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานดูโลเคชันแบบออฟไลน์ และเดินทางสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำ และมีโหมดการเดินทางรูปแบบใหม่ Exploration Mode ที่ทำให้บันทึกผลการออกกำลังกายกลางแจ้งได้ละเอียดว่าจุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหน และวิ่งหรือเดินมาถึงจุดไหนแล้ว พร้อมกันนั้นก็ยังสามารถกำหนดจุด “ย้อนกลับ” เพื่อให้เดินหรือวิ่งกลับไปยังจุดที่ผ่านมาได้ ขณะเดียวกันนักผจญภัยยังอุ่นใจได้กับการให้ข้อมูลสภาพแวดล้อมต่างๆ จากบนข้อมือ เช่น ระดับความสูง การแจ้งเตือนพายุ เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก รวมถึงข้างขึ้น-ข้างแรมของดวงจันทร์

และน้ำขึ้น-น้ำลง รวมไปถึงตรวจจับสภาวะร่างกาย ได้แก่ ระดับออกซิเจนในเลือด การแจ้งเตือนออกซิเจนต่ำ หรืออัตราการเต้นของหัวใจสูง6 ซึ่งมีความสำคัญเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังกายมาก

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ สามารถใช้ Professional Golf Course Mode บน HUAWEI WATCH Ultimate Golf Mode เพื่อสัมผัสประสบการณ์เทรนนิ่งที่ติดตาม Performance ได้ตลอด โดยนาฬิกาจะบันทึกข้อมูลสถิติการตีกอล์ฟทุกครั้งที่ไดรฟ์หรือเมื่ออยู่ในสนามจริง ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว (speed) จังหวะ (tempo) การยกไม้กอล์ฟขึ้นก่อนตี (backswing) และการตวัดไม้เพื่อตีลูก (downswing) เรียกได้ว่าเก็บครบทุกรายละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ แถมยังมี demo สาธิตพร้อมคำแนะนำสำหรับพัฒนาทักษะให้อีกด้วย จะออกรอบกับเพื่อนเป็นงานอดิเรกหรือกับคู่ค้านักธุรกิจเพื่อปิดดีลสำคัญ รับรองได้เลยว่าจะมีแรงบันดาลใจฝึกวงสวิงให้เหนือชั้นและพร้อมไปประลองฝีมืออยู่เสมอ ทั้งยังสร้างโอกาสในการเข้าสังคม และสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไปด้วยในทางอ้อม

ยกระดับชีวิตประจำวันสู่ความล้ำสมัยระดับโปร

ความอึดของแบตเตอรี่ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่คนใช้สมาร์ทวอทช์พิจารณาเสมอ โดยเฉพาะนักธุรกิจที่งานรัดตัว หรือผู้ใช้ที่ต้องเดินทางบ่อย HUAWEI WATCH Ultimate มาพร้อมโหมดจัดการการใช้พลังงานถึง 4 แบบ คือ Standard Mode สำหรับการใช้งานปกติ High-Performance Mode เมื่อต้องใช้ขุมพลังสูงสุด Long Battery Life Mode ประหยัดพลังงาน ไปจนถึงโหมดที่เพิ่มขึ้นมาครั้งแรกในสมาร์ทวอทช์ของหัวเว่ยคือ Custom Mode ที่ตั้งค่าได้เองถึง 6 แบบ นอกจากนี้นาฬิกายังปรับการใช้งานบางฟีเจอร์ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นได้ตามสถานการณ์ เช่น การประหยัดพลังงานระหว่างทำกิจกรรมสมบุกสมบัน ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวๆ 2 สัปดาห์7 ที่สำคัญ HUAWEI WATCH Ultimate รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จได้เต็มภายใน 60 นาที หรือชาร์จเพียง 10 นาทีก็มีแบตเตอรี่ไว้ใช้งานต่อได้ถึง 25%

นอกจากนี้ HUAWEI WATCH Ultimate ยังมีฟีเจอร์ดูแลสุขภาพครบครันและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดออกซิเจนในเลือด ด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruSeenTM 5.0+ หรือดูแลการนอนหลับด้วยเทคโนโลยี HUAWEI TruSleep™ โดย HUAWEI WATCH Ultimate สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทุกระบบปฏิบัติการได้ผ่าน Bluetooth ไม่ว่าผู้ใช้จะกำลังเดินทาง แบกเป้เข้าป่า หรือล่องเรืออยู่กลางทะเล ก็ไม่จำเป็นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อรับสาย หรือตอบข้อความ เพราะสายเข้า-ออก และข้อความต่างๆ สามารถจัดการได้ผ่านสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ ยิ่งกว่านั้น หากต้องการสีสันให้กับช่วงเวลาการเดินทางก็สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทวอทช์กับหูฟังไร้สายเพื่อฟังเพลงได้โดยควบคุมการเล่นเพลงบนหน้าปัด

ลูกค้าหัวเว่ยที่รอคอยสมาร์ทวอทช์สุดพรีเมียม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เอ็กคลูซีฟ สามารถจับจองเป็นเจ้าของ HUAWEI WATCH Ultimate ได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

· HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN ราคา 99,990 บาท วางจำหน่ายที่ Huawei Experience Store ที่ร่วมรายการเท่านั้น เมื่อซื้อรับฟรี การรับประกันความคุ้มครองระดับสากล 2 ปี มูลค่า 3,699 บาท บริการตรวจเช็คสภาพเครื่องจำนวน 2 ครั้งในระยะเวลา 2 ปี มูลค่า 1,699 บาท พร้อมรับประกันเปลี่ยนหน้าจอได้ 1 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 2,499 บาท สั่งซื้อได้ที่ Huawei Experience Store ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์บนร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada

· HUAWEI WATCH Ultimate Voyage Blue ราคา 29,990 บาท ทันทีที่ซื้อรับเลยการรับประกันความคุ้มครองในประเทศไทย 1 ปี แถมฟรีอีก 1 ปี มูลค่า 1,299 บาท และบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องจำนวน 2 ครั้งในระยะเวลา 2 ปี มูลค่า 1,699 บาท สั่งซื้อได้ที่ Huawei Experience Store ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์บนร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada

· HUAWEI WATCH Ultimate Expedition Black ราคา 24,990 บาท เมื่อซื้อฟรีทันที การรับประกันความคุ้มครองในประเทศไทย 1 ปี แถมฟรีอีก 1 ปี มูลค่า 1,299 บาท และบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องจำนวน 2 ครั้งในระยะเวลา 2 ปี มูลค่า 1,699 บาท สั่งซื้อได้ที่ Huawei Experience Store ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์บนร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee

ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Facebook Huawei Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares