Motorola ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Edge S ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ประเทศจีน โดยมันมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.7 นิ้วที่มีรีเฟรชเรท 90Hz และมีกล้องหน้าคู่แบบเจาะรูความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + กล้องมุมกว้าง 100 องศา 8 ล้านพิกเซล ที่ตัวกล้องหน้ามีหนึ่งจุดเด่นคือสามารถ่ายเซลฟี่ค้างไว้ 15 วินาทีเพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้

ภายในตัวเครื่องมาพร้อมชิบ Snapdragon 870 ที่รองรับ 5G ทั้งแบบ SA/NSA ด้วยโมเด็ม Snapdragon X55 ที่มาพร้อม RAM 8GB และ Android 11

ซึ่งทางบริษัทได้เผยว่าชิบดังกล่าวสามารถทำคะแนน benchmark บน AnTuTu ได้ถึง 680,000 คะแนน ซึ่งถือว่ามากกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ Snapdragon 865+ อย่าง ROG Phone 3 เสียอีก ส่งผลให้มีประสิทธิภาพซีพียูเพิ่มขึ้น 12% และประสิทธิภาพการ์ดจอเพิ่มขึ้น 10%

ในส่วนของกล้องหลังนั้นมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วย 64 ล้านพิกเซล + กล้องมุมกว้าง 121 องศา 16 ล้านพิกเซล + กล้องจับความลึก 2 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ ToF

ตัวเครื่องของ Moto Edge S มีปุ่มสแกนนิ้วอยู่ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง โดยตัวปุ่มจะเป็นปุ่มเดียวกับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และทางด้านของแบตเตอรี่มีความจุ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 20W

Motorola Edge S is official with Snapdragon 870, 5G and triple camera

สเปคของ Motorola Edge S

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.7 นิ้ว (2,520× 1,080 พิกเซล) Full HD+, อัตราส่วน 21:9, รีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่าง 560nits, รองรับ HDR10, DCI-P3 Color Gamut
  • ชิบประมวลผล Snapdragon 870 7nm
  • การ์ดจอ Adreno 650
  • RAM LPPDDR5 6GB/8GB + storage (UFS 3.1) 128GB / RAM LPPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 256GB
  • ซิมคู่ (nano + nano)
  • Android 11
  • กล้องหลัง
    • กล้องตัวหลัก 64MP (f/1.7), PDAF
    • กล้อง ultra-wide 121° 16MP, รองรับ PDAF, มาโครขนาด 2.8 ซม.
    • กล้องจับความลึก 2MP
    • เซ็นเซอร์ ToF sensor
    • ระบบซูมเสียง audio zoom
    • แฟลช LED
  • กล้องหน้า 16MP + กล้อง ultra-wide 100° 8MP
  • ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง
  • ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5mm
  • ตัวเครื่องกันน้ำและกันฝุ่น (มาตรฐาน IP52)
  • ขนาดตัวเครื่อง: 168.38×73.97×9.63มม.; น้ำหนัก: 215 กรัม
  • รองรับ 5G SA/NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax, Bluetooth 5.1, GPS (L1 + L5), NFC
  • พอร์ต USB Type-C
  • แบตเตอรี่ 5,000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 20W

เจ้า Motorola Edge S มีให้เลือกในตัวเครื่องสีขาวและสีน้ำเงิน (emerald blue) โดยมีราคาอยู่ที่

  • 1,999 หยวน (ประมาณ9,300บาท) ในรุ่น 6GB + 128GB
  • 2,399 หยวน (ประมาณ11,100บาท) ในรุ่น 8GB + 128GB
  • 2,799 หยวน (ประมาณ13,000บาท) ในรุ่น 8GB + 256GB

ซึ่งจะวางขายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ที่ประเทศจีน

SOURCE

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares