ถ้าพูดถึงการรีวิวสมาร์ตโฟนจาก Infinix ต้องบอกว่าถือเป็นแบรนด์ที่มีความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคา เน้นการใช้งานรอบด้านและในตัวนี้ Infinix Note 50 Pro+ ได้ชื่อว่าเป็น Pro+ ก็ต้องบอกเลยว่าสุดรอบด้านของจริง ทั้งกล้อง และ เกม รวมไปถึงการออกแบบ ในรอบนี้ Infinix Note 50 Pro+ จับมือกับ PUBG ทำให้สามารถเล่น 120 FPS ได้แบบลื่นๆ พร้อมฟีเจอร์ AI จัดเต็มในราคาคุ้มค่า
UNBOXING
ในกล่องของ Infinix Note 50 Pro+ มีของมาให้ดังนี้
- ตัวเครื่อง Infinix Note 50 Pro+
- คู่มือการใช้งาน
- สายชาร์จ
- หัวชาร์จ 100 W
- เข็มจิ้มซิม
- เคส
- ฟิล์มกันรอย
- Mag charging
- บัตร SVIP CARD
DESIGN
Infinix Note 50 Pro+ 5G เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Infinix ที่มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียมและสเปกที่ทรงพลัง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการประสบการณ์ที่ล้ำสมัยทั้งในด้านการใช้งานทั่วไป การถ่ายภาพ และฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ โดนงานออกแบบตัวเครื่อง ผลิตจากโลหะ ArmorAlloy™ แข็งแรงและทนทาน พร้อมเทคโนโลยี HyperCasting ที่ลดชิ้นส่วนโครงสร้างลง 22 ชิ้น และน้ำหนักโครงสร้างลง 10% เพื่อการกระจายความร้อนที่ดีขึ้น ดีไซน์บางเฉียบและโค้งมน มอบความรู้สึกหรูหราและพรีเมียม
ฝาหลังตัวเครื่อง เรียบๆ ไม่ได้มีความโค้ง มีความเหลี่ยมตามขอบมุม เครื่อง และ ตำแหน่งของกล้องหลัง พร้อม Bio-Active Halo AI Lighting
หน้าจอตรง เรียบเนียน ติดฟิล์มง่าย ถูกใจสายเกมแน่นอนเพราะจอไม่โค้ง จอขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32 MP
ด้านบนเป็นตำแหน่งของ ลำโพง และ IR เสริมลำโพงด้วยคำว่า Sound By JBL ด้วยลำโพงคู่ Dual Speakers ที่ได้รับการปรับแต่งเสียงโดย JBL พร้อมรองรับ Hi-Res Audio
ด้านขวา เป็นตำแหน่งของ ปุ่มเปิด ปิด เครื่อง
ด้านซ้ายเป็นตำแหน่งของ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
ด้านล่างเป็นตำแหน่งของ ลำโพง และพอร์ต USB-C ซึ่งตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงสเตอริโอคู่
DISPLAY
Infinix Note 50 Pro+ มาพร้อมหน้าจอ AMOLED โค้งขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรต 144Hz ความสว่างสูงสุด 1300nits ใหญ่เต็มตาและความพิเศษของ 144 Hz ในครั้งนี้ CoLab กับ PUBG Mobile Thailand ด้วยจอ AMOLED 144Hz ทำให้มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือระดับยิ่งขึ้นกว่าเดิม!
PERFORMANCE
Infinix Note 50 Pro+ มาพร้อมชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8350 Ultimate ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 4nm รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานหนักระดับโปรเซสเซอร์เรือธง ทั้ง Octa-core CPU ความเร็วสูงสุด 3.35GHz (เมื่อผสาน 12GB+12GB) ของ LPDDR5X ความเร็วสูงเพื่อมอบประสิทธิภาพเหนือระดับลดการใช้พลังงานและมอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลอย่างสมบูรณ์แบบ
PUBG Mobile การจับมือสุดพิเศษที่ทำให้รีดประสิทธิภาพของเกมออกมาได้ถึงขีดสุด ใช้การแสดงผลของจอได้แบบเต็มที่กับ จอ AMOLED รีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz และ Touch Sampling Rate ที่สูงสุดถึง 2304Hz CoLab สุดพิเศษนี้กับ PUBG Mobile Thailand อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบประสบการณ์เล่นเกมที่ลื่นไหล เฟรมเรทนิ่ง ภาพสีสวยสดสมจริง พร้อมการควบคุมที่แม่นยำ
Bio-Active Halo AI Lighting
ระบบไฟแจ้งเตือนที่อยู่บริเวณกล้องหลัง แสดงแสงไฟในรูปแบบต่างๆ ตามประเภทของการแจ้งเตือน เช่น สายเรียกเข้า, แจ้งเตือนใหม่ และ การชาร์จแบตเตอรี่ ทำงานร่วมกับ AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีและเอฟเฟกต์แสงให้เหมาะกับสถานการณ์ และยังเป็นตำแหน่งของการวัดค่า SPo2 อีกด้วย ครบเครื่องสุด Infinix Note 50 Pro+
Infinix AI∞
• Folax ผู้ช่วย AI ที่ตอบสนองตามความต้องการ เหมือนคู่หูส่วนตัว ผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมรับคำสั่งที่เราสั่งงานได้เลย
• AI Eraser และ AI CutOut สำหรับการตัดต่อภาพ ลบคน ลบสิ่งของ
• AI Writing และ AI Note สำหรับการเขียนและจดบันทึก
• AI Wallpaper Generator สำหรับสร้างวอลเปเปอร์
• Real-Time Call Translator แปลภาษาแบบเรียลไทม์
• Call Summary และ AI Auto-Answer สำหรับการจัดการสายโทรเข้า
• Dual-way Speech Enhancement ปรับปรุงคุณภาพเสียงสนทนา
ฟังชั่น AI ที่จัดเต็มสุดๆ ในช่วงราคานี้ ใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทดลองมาให้แล้ว ทั้งการลบ AI Eraser และ AI CutOut การบันทึกเสียงและ แปลงลงมาให้ สรุปคำที่อัดเสียงมาได้ และในเรื่องของการแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์
BATTERY FastCharge3.0
เครื่องดีไซน์พรีเมียมแบบนี้ วัสดุแข็งแรงทนทาน และยังทำเครื่องได้บางขนาดนี้ แต่ขนาดแบตไม่ธรรมดา มาพร้อมกับ แบตความจุ 5,200mAh รองรับชาร์จไวแบบสาย 100W และชาร์จไร้สาย 50W ถือว่าไวระดับต้นๆ เลย แถมยังสามารถเลือกระบบการชาร์จได้ด้วยว่าจะให้ไวแบบสุดๆ หรือว่า เน้นไปในเรื่องของการชาร์จแล้วตัวเครื่องไม่ร้อนด้วย
ซึ่งแบ่งหลัก ๆ 3 โหมด เริ่มจาก Low Temp Mode ที่จะทำให้การชาร์จผ่านสาย ลดอุณหภูมิสูงสุด เกือบ 10 องศา Smart Mode ที่จะทำให้การชาร์จ 0-100 ได้ใน 43 นาที โหมดนี้ก็จะสลับการชาร์จ ให้สอดคล้องกับความร้อนตัวเครื่อง ทำให้เครื่องไม่ร้อนจนเกินไปขณะชาร์จ และ โหมดสุดท้าย Hyper Mode โหมดนี้นี่แหละไวที่สุด โชว์พลังของการชาร์จไว 100 W เต็มได้ใน 32 นาที เรียกได้ว่า All Round Fastcharge สุด ๆ
และยังรองรับ Infinix MagCharge การชาร์จไร้สาย เร็วสุด 50 W และเอาใจสายเกม ไหนๆ ก็ Colab กับเกม PUBG แล้วเอาใจสายเกม ที่ชอบเล่นไปชาร์จไปบ้าง มีระบบชาร์จ Bypass โดยการจ่ายไฟตรงไปยังเมนบอร์ด เพื่อรักษาสุขภาพแบตเตอรี่และอุณหภูมิให้เหมาะสมเล่นเกมสนุก แถมยังรักษาแบตอีกด้วย
CAMERA
กล้องหลัง SONY IMX896 Night Master 50MP OIS F1.88 เลนส์ซูม Periscope 50 MP 3X ซูมแบบไม่เสียรายละเอียด และ 6X ดิจิทัลซูมแบบไม่เสียรายละเอียด ซูมสูงสุดได้ที่ 100X และ กล้อง UltraWide 8 MP รองรับการถ่าย VDO 4K 60 FPS และ รองรับโหมดถ่ายภาพมากมาย เช่น Super Night, Vlog Mode, Street Photography และ AI Portrait
ภาพตัวอย่าง Infinix Note 50 Pro+
INFINIX Note 50 Pro Plus ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวคุ้มรอบด้าน ทั้งเกม ที่ได้ Colab กับทาง PUBG Thailand รีดประสิทธิภาพของตัวเครื่องออกมาได้อย่างดี กับการเล่นบน จอ 144 Hz แค่นี้ก็คุ้มค่ากับราคาแล้ว แถมยังได้ความสุดของกล้อง ที่ในราคาประมาณนี้ ให้เลนส์ซูมแบบ Periscope มาอีกด้วยครบนะเอาจริง ทั้งภาพ เสียง การเล่นเกม ชาร์จไว และ AI ที่จัดเต็มแบบนี้
ราคาและการวางจำหน่าย
ตัวเครื่องมีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Titanium Grey, Enchanted Purple และ Racing Edition ความจุ 12 + 256GB ราคาเปิดตัว กับสเปกที่อัดแน่นแบบนี้ 13,999 บาท
