งาน HUAWEI CONNECT 2025 ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ นครเซี่ยงไฮ้ โดยนายเอริค สวี่ (Eric Xu) รองประธานและประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ “Groundbreaking SuperPoD Interconnect: Leading a New Paradigm for AI Infrastructure” พร้อมประกาศเปิดตัว SuperPoDs และ SuperClusters ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
เอริคสวี่ (Eric Xu) รองประธานและประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ยกล่าวบรรยายภายในงาน
นายสวี่ กล่าวว่า “พลังประมวลผล คือปัจจัยสำคัญของเทคโนโลยี AI ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน” พร้อมตอกย้ำถึงเป้าหมายของหัวเว่ยในการตอบสนองความต้องการด้านพลังประมวลผลในระยะยาวอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนา SuperPoDs และ SuperClusters โดยใช้กระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงภายในแผ่นดินใหญ่ของจีน
SuperPoD คือระบบประมวลผลที่ทำงานเสมือนเป็นเครื่องเดียว (Single Logical Machine) โดยประกอบด้วยเครื่องจริงหลายเครื่อง (Multiple Physical Machines) ที่สามารถเรียนรู้ วิเคราะห์ และประมวลผลร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ ภายในงาน นายสวี่ ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ SuperPoD รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท ได้แก่ Atlas 950 SuperPoD (ติดตั้ง Ascend NPU จำนวน 8,192 หน่วย) และ Atlas 960 SuperPoD (ติดตั้ง Ascend NPU จำนวน 15,488 หน่วย) โดยทั้งสองรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบสมรรถนะที่เหนือกว่าในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นจำนวน NPU พลังประมวลผลรวม ความจุของหน่วยความจำ หรือแบนด์วิดท์การเชื่อมต่อ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลโรดแมปผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตรายอื่นได้เปิดเผยต่อสาธารณะ SuperPoD รุ่นใหม่ของหัวเว่ยจึงถือเป็นระบบที่ทรงพลังที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน และคาดว่าจะยังคงครองความเป็นผู้นำต่อไปได้อีกหลายปี เขายังได้ประกาศเปิดตัว Atlas 950 SuperCluster (ติดตั้ง Ascend NPU กว่า 500,000 หน่วย) และ Atlas 960 SuperCluster (ติดตั้ง Ascend NPU กว่าหนึ่งล้านหน่วย) ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ประมวลผลขนาดใหญ่ที่ประกอบขึ้นจาก Huawei SuperPoDs หลายชุด โดยทั้งสองระบบได้รับการพัฒนาเพื่อมอบศักยภาพการประมวลผลที่เหนือกว่าคลัสเตอร์ใด ๆ ในตลาด หลังจากเปิดตัว SuperPoDs และ SuperClusters ที่ทรงพลังที่สุดในโลก นายสวี่ กล่าวว่า หัวเว่ยมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการมอบพลังประมวลผลมหาศาล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และได้แนะนำ TaiShan 950 SuperPoD ซึ่งนับเป็น SuperPoD สำหรับการประมวลผลทั่วไป (General-Purpose Computing) รุ่นแรกของโลก โดยระบบนี้เมื่อทำงานร่วมกับ GaussDB แบบกระจายศูนย์ของหัวเว่ย จะเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานทดแทนเมนเฟรม คอมพิวเตอร์ระดับกลาง และแม้กระทั่งเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล Exadata ได้อย่างสมบูรณ์
ปัญหาสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ในปัจจุบันอยู่ที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ โดยเฉพาะข้อจำกัดทางกายภาพของสายเคเบิลที่ใช้งานอยู่ ทั้งแบบไฟเบอร์ออปติกและทองแดง ซึ่งไม่สามารถรองรับการเชื่อมต่อชิปและ SuperPoD จำนวนมหาศาลในระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังต้องรักษาความเร็วสูง ความเสถียร และความหน่วงต่ำเอาไว้ หัวเว่ยได้สั่งสมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อมายาวนานกว่า 30 ปี และด้วยการผสานองค์ความรู้เข้ากับนวัตกรรมระบบที่ก้าวล้ำ บริษัทจึงสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเหล่านี้ และบรรลุความสำเร็จครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมได้ในที่สุด
ผลลัพธ์จากความก้าวหน้าครั้งนี้คือ UnifiedBus ซึ่งเป็นโปรโตคอลการเชื่อมต่อที่ล้ำสมัยสำหรับ SuperPoDs นอกจากนี้ยังได้ประกาศเผยแพร่ข้อกำหนดทางเทคนิคของ UnifiedBus 2.0 เพื่อให้พันธมิตรในอุตสาหกรรมสามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่วนประกอบที่รองรับ UnifiedBus ได้มากขึ้น พร้อมร่วมกันสร้างระบบนิเวศ UnifiedBus ที่เปิดกว้างอย่างสมบูรณ์
นายสวี่ กล่าวสรุปว่า “SuperPoDs และ SuperClusters ที่ขับเคลื่อนด้วย UnifiedBus คือตัวแทนคำตอบของหัวเว่ยต่อความต้องการพลังประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป้าหมายสูงสุดของเราคือการผลักดันความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่”