Huawei เปิดตัว ตระกูล Mate20 มาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันมีทั้งรุ่น Mate 20 / 20 X / 20 Pro แน่นอนครับว่าทางเราได้รีวิวตัวเล็กไปแล้วในรุ่น Mate 20 และในวันนี้เราจะมาทดลองใช้งานกับรุ่น Mate 20X รุ่นพี่จอใหญ่ ที่สุดในตระกูล และแน่นอนว่าขนาดนั้นใหญ่สะใจมากๆครับ แต่ด้วยขนาดจอใหญ่ฟีเจอร์ด้านอื่นๆนั้นก็ไม่ได้เป็นรองใครเลย โดยได้นำกล้องตัว Pro มาใส่ต้องบอกว่าเรื่องกล้องนั้นเทพเลยแหละ และ มาพร้อมวัสดุฝาหลังแบบเดียวกันด้วยครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมากๆเลย และในไทยยิ่งพิเศษด้วยการที่แถมปากกามาให้ทุกเครื่องเลย ที่ขายในไทยอันนี้ดีมาก

Mate 20 X เปิดตัวเป็นรุ่นที่จอใหญ่ที่สุดในตระกูล ด้วยขนาดจอมากถึง 7.2 นิ้ว OLED รองรับปากกา M-Pen ด้วย และมาด้วย CPU Kirin 980 7nm ตัวใหม่ล่าสุดจากทาง Huawei และ GPU TURBO2.0 รวมถึง ลำโพงคู่ และ กล้องหลัง 3 ตัวที่มาพร้อมเลนส์มุมกว้างอีกด้วยที่ตัวเดียวกับทาง Mate 20 Pro ครับ อีกทั้ง ยังมีระบบระบายความร้อน Vapour Chamber (VC) และ Graphene Film และแบต มากถึง 5000 mAh รองรับ Super Charge ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ค่อนข้างจัดเต็มทั้ง จอใหญ่ แบตอึด กล้องสวย และ แรง ครบเลยในรุ่นนี้ครบเครื่อง 

Huawei Mate 20 X นั้นเปิด ราคามาที่ 28,990 บาท พร้อมกันด้วย 2 สีด้วยกันครับคือทางสี  Midnight Blue และ Phantom Silver และ แถมปากกา M-pen ทุกเครื่อง ใครซื้อแล้วไม่มีให้ ไปขอหรือคุยกับทาง Huawei เลยนะครับผมรุ่นนี้ต้องได้ทุกคนที่ซื้อ และเป็นประเทศเดียวด้วยที่แถมแบบนี้

UNBOX

  • ตัวเครื่อง Huawei Mate 20 X
  • เคส Huawei Mate 20 X แบบใส นิ่ม
  • ที่ชาร์จ Huawei Supercharge
  • สายชาร์จ Huawei Supercharge
  • หูฟัง 3.5 มม.
  • ปากกา M-Pen ขายจริงจะเป็นกล่องแยกนะครับ
  • ฟิลม์ใส ติดมาบนหน้าจอ

DESIGN

การออกแบบตัวเครื่อง มาที่ขนาดกันก่อนเลย 7.2 นิ้วที่มัน Tablet ในยุคก่อนกันเลยครับใหญ่มากกกแต่ด้วย เทคโนโลยี ขอบบางๆในสมัยนี้มันทำให้ขนาดยังพอพกพาไปไหนมาไหนได้สบายขึ้นเยอะ เป็นมือถือได้เลยครับ น้ำหนัก ขนาดของจริงไม่ได้เกะกะแบบที่คิด ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้ น้ำหนักไม่ถ่วงมากหนักงานประกอบทำได้ดี แต่ถ้าวางไว้กระเป๋าหลัง อย่าเผลอไปนั่งทับแอดมินเสียวแทนด้วยขนาดจอใหญ่แบบนี้ อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเลย

ในด้านของหน้าจอ มาที่ขนาดใหญ่มากก จอ 7.2 นิ้วความละเอียด 2244 x 1080 แบบ OLED รองรับ HDR และเป็นจอแบบขอบบาง มีติ่งหยดน้ำ จึงทำให้ขนาดมันพกพาได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมากครับ จอเรียบไม่มีโค้งแบบตัว PRO และ ทับด้วยกระจก Gorilla Glass จอจะมีฟิลม์ติดจากโรงงานมาให้นะครับแ่ในภาพนั้นน่าจะแกะออกไปแล้ว

ในส่วนของขอบด้านบนหน้าจอนั้น เป็นหน้าจอแบบมีติ่งหยดน้ำนั้นเอง การแจ้งเตือนโดนย้ายไปซ้ายขวา หมด รวมถึง ลำโพง และเซนเซอร์ต่างๆนั้นซ่อนอยู่ข้างๆกล้อง และ ลำโพงนั้นอยู่บริวเณขอบเครื่องเหนือตัวกล้องนั้นเองครับเนียนๆมาที่ด้านล่าง แน่นอนว่าทุกค่ายนั้นยังต้องมีขอบจอในส่วนล่างไว้ไม่ได้บางมากนัก เพราะเป็นส่วนที่ทำได้ยากถ้าจะทำบางๆและมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป และราคาน่าจะพุ่งกว่านี้มากเลยนะ ยอมมีขอบแต่ราคาจับต้องได้แทนละกันแบบนั้น ส่วนในการควบคุมปุ่มนั้น ย้ายไปบนจอหมดแล้ว และ สามารถใช้แบบ ปัดๆไปมาได้แบบไม่ต้องมีปุ่ม 3 ปุ่มแล้วครับ

ในส่วนของขอบด้านล่าง ตัวนี้ มีลำโพงหลัก ตัวที่ 1 รูชาร์จ ไมค์ ทั้ง 2 จุดครับผม ขอบมีการปัดเงาเช่นกันสวยงาม รูหูฟัง นั้นมาอยู่ด้านบน ไม่ได้ตัดไปไหน รูไมค์ก็มีมาด้วย รวมถึง IR ไม่ได้ตัดออกไปด้วย และลำโพงหลักตัวที่ 2
ด้านซ้ายตัวเครื่องเรียบๆเลยครับ เป็นที่อยู่ของ ถาดซิม และ รองรับ 2 ซิม หรือ 1 ซิม +NM Card เพิ่มความจุ ไม่ใช่ Micro-SD แล้วนะ ต้อง NM Card เท่านั้นที่ผลิตโดย Huawei นั้นเอง รูปทรงแบบ ซิม เลยครับ ขอบด้านขวาของตัวเครื่องรุ่นนี้ เป็นปุ่ม Power ที่มีขอบสีแดง และ Texture ขีดๆครับ และปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียงครับ ด้านหลังรุ่นนี้ จะเป็นการเอากล้องมาจาก MATE 20 Pro เลย แต่มีสแกนนิ้วด้านหลังมาให้ครับ พร้อมกับวัสดุฝาหลังแบบกระจก แต่มีการเล่นลวดลาย ขีดๆแนวทแยง ทำให้ไม่เลอะรอยนิ้วมือ ทนรอยขีดข่วนได้ดีมาก และ เล่นกับแสงสวยเลยแหละ และเรื่องทนรอยขนแมวได้ดีจริงๆนะ การสัมผัสคล้ายๆพวกไม้บรรทัด 3 มิติในตอนเด็นๆนั้นแหละ 55

SPEC

  • Android 9.0 Pie + EMUI 9.0
  • CPU HUAWEI Kirin 980 7nm
  • GPU Mali-G76 MP10
  • หน้าจอ 7.2 นิ้วความละเอียด 2244 x 1080 FHD+ แบบ OLED รองรับ HDR + DCI-P3
  • RAM 6GB
  • STORAGE 128GB + เพิ่มความจุ NM Card สูงสุด 256GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว  40 MP (Wide Angle Lens, f/1.8 aperture) + 20 MP (Ultra Wide Angle Lens, f/2.2 aperture) + 8 MP (Telephoto, f/2.4 aperture), supports autofocus (laser focus, phase focus, contrast focus), supports AIS (Huawei AI Image Stabilization).
  • กล้องหน้า 1 ตัว 24 MP, f/2.0 aperture
  • สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง
  • ลำโพงคู่ STEREO
  • Type-C, USB 3.1 GEN1
  • แบต 5,000 mAh พร้อม Huawei Supercharge
  • มีระบบระบายความร้อน Vapour Chamber (VC) และ Graphene Film
  •  85.4 มม.  174.6 มม.  8.15 มม.น้ำหนัก:232 กรัม

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพของตัวเครื่องแน่นอนเลยครับว่าตัว Kirin 980 นั้นไม่มีอะไรติดขัดเลยด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแบบ 7nm ทำให้มันค่อนข้างดีเลยแหละ เพียงแต่บางแอพหรือบางส่วนยังไม่ได้ลงตัวมากนัก มาพร้อม RAM 6GB ความจุ 128 GB ได้ UFS2.1 ส่วนคะแนน antutu นั้นทำได้ไป 248712 คะแนน จากที่ทดสอบยังไม่แตะ 3 แสนแบบรุ่น Mate 20 อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันเป็นเพราะอะไรครับ จริงๆอย่าไปอิงคะแนนมากครับเน้นใช้งานจริงจะดีกว่าว่าระบบทำได้ลื่นและดึงประสิทธิภาพออกมาได้ดีขนาดไหนครับผม

SYSTEM UI

สำหรับ Software นั้นมาพร้อมกับตัว EMUI ล่าสุดและ  Android 9 ครับ หน้าตาใกล้เคียงรุ่นเดิมแต่ปรับบางจุดเล็กน้อยครับ แอพการแจ้งเตือนเป็นจุด และ เลขในบางแอพ  และ App drawer นั้นสามารถเลือกได้ครับว่าจะมีหรือไม่มีทำให้เราสามารถตั้งค่าได้ครับ ไม่ได้ตัดออกไปไหน หน้าตาโดยรวมไม่ค่อยต่างจากรุ่นก่อนมากนักครับใน P20

สำหรับหน้าตา Quicksetting นั้นต้องบอกว่าอิงจากตัวเดิมแต่ปรับมาโทนสีขาวฟ้า และ ปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะเช่นเดิม อีกทั้งยังแบ่งหน้าจอได้ง่ายๆด้วยใช้ข้อนิ้วเคาะและลากครับก็จะสามารถแบ่งได้เลย

คียบอร์ดไทยนั้นยังคงใช้ Swiftkey เช่นเดิม ตัว MATE 20 X  มาพร้อมความจุถึง 128GB และ RAM 6 GB ครับ ว่างประมาณ 110 กว่าๆ และ RAM ใช้งานไป 3 GB ครับ เหลือๆสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปเลย

ในส่วนของการควบคุมนั้นจะเลือกได้ว่าจะเอาแบบ ปัดเต็มจอ หรือ ปุ่มแบบเดิมๆ ก็สามารถเลือกได้เลย Gesture นั้นมีเลือกมากมายทั้งเคาะหน้าจอถ่ายภาพ แบ่งหน้าจออะไรพวกนี้ครับ ยกขึ้นมาจะเงียบพวกนี้ยังคงมีมาครบ และแน่นอนว่าสามารถ สแกนใบหน้าได้ด้วยสำหรับตัวนี้ ทำได้ไวพอสมควร แต่ใช้งานแบบกล้องที่มืดเลยสแกนไม่ติดครับ

สำหรับตัวติ่งที่มีมาให้่ก็สามารถถมดำปิดไปได้ด้วยเช่นเดียวกันครับเนียนๆตาไปเลย หน้าตาแอพธีมอะไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ครับ ไอคอน การเปลี่ยนหน้าต่างๆ รวมถึงระบบเสียงก็รองรับ Dolby และปรับ EQ ได้ตามภาพเลยครับ

M-PEN 

สำหรับรุ่นนี้แน่นอนจุดที่เด่นๆเลยก็หนีไม่พ้นในเรื่องของขนาดจอที่ใหญ่มากและหน้าจอใหญ่ๆแบบนี้เราต้องใช้ประโยชน์ของมันให้ได้เต็มที่รุ่นนี้รองรับปากกาด้วย และ ประเทศไทย Exclusive สุดๆแถมมาให้ทุกเครื่อง แน่นอนว่าปากกาตัวนี้นั้นเรียกว่า M-pen แบบเดียวกับทางฝั่ง Mediapad แต่แน่นอน ขนาด ต่างๆการออกแบบ รวมถึงตัวปากกานั้นแตกต่างกันพอสมควรเลย ตัวปากกาตัวนี้มีขนาดเล็กกว่า เบากว่าและดีไซน์การออกแบบทั้งหมดแตกต่างกันแบบชัดเจน ตัวปากการุ่นนี้ หัวสีดำ แข็งครับ และมีเหน็บปากกามาให้ ทำเหมือนปากกาจริงๆมากขึ้นทุกวัน และ น้ำหนักนั้นก็ทำได้ดีเลย แต่การใช้งานจริงๆจะดีไหมต้องดูกัน

ทางด้านการออกแบบตัวนี้มาในโทนสีเทาเข้มวัสดุสีด้านครับ หัวปากกามีขอบแดง ละตัวหัวเป็นสีดำขนาดพอดีมือไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่เนื่องจากการใช้งานนั้นตัวเครื่องมันไม่มีที่เก็บปากกาทำให้เราต้องพกแยกและอาจจะมีลืมกันได้ง่ายและอาจจะขี้เกียจพกกันไปทุกวันได้ครับ ยังดีที่ตัวปากกามีการออกแบบที่เหน็บกระเป๋าเสื้อมาให้ก็พกได้สะดวกขึ้นเยอะเลย การใช้งานปากกานั้นปากกาด้านหัวจะเป็นหัวแบบแข็งและค่อนข้างลื่นครับเมื่อใช้งานกับหน้าจอของทาง Mate 20 X ฟิลลิ่งนั้นจะแตกต่างกับทาง MediaPad พอสมควรและเทียบกับทางค่ายเกาหลี ที่มีปากกามาให้นั้นจะยังพบความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจนเลย รวมถึงการไล่น้ำหนัก ความลื่น หนืดของตัวหัวปากกาซึ่งต้องบอกกันตรงๆว่าของทาง  Huawei นั้นยังทำมาได้ไม่ได้ลงตัวมานักในจุดนี้ แต่ก็พอใช้เขียวอะไรชั่วคราวได้ หรือจดงานเป็นหลัก แต่ถ้าสายวาดภาพหรือออกแบบอาจจะเจอจุดที่ยังใช้งานไม่ค่อนลงตัวเท่าไรนั้นเอง

ปากกาตัวนี้จะใช้ไฟชาร์จเข้านะครับแบบ TYPE-C แน่นอนว่าแบตในตัวก็ใช้งานได้นานนมากพอสมควรครับ และการชาร์จก็ทำได้ไวไม่ได้มีปัญหาอะไรมากแต่ตัวที่ชาร์จนั้น จะเป็นพอร์ทที่ไม่มีอะไรปิดอันนี้อาจจะต้องระวังอะไรเข้าไปติด หรือพวกฝุ่นต่างๆครับ

ตัวปากกายังมีปุ่มตรงตัวด้ามปากกาสำหรับใช้คำสั่งต่างๆด้ด้วยเช่นเดียวกันในแต่ละแอพนั้นก็มีคำสั่งที่ต่างกันครับ ตำแหน่งนี้เวลาใช้งานจริงๆยังแอบเหมือนตัวของ MediaPad นั้นทำให้เวลาวาดภาพ หรือเขียนแล้วมันชอบไปโดนบ่อยมากจริงๆต้องหมุนเปลี่ยนมุมกันนิดนึงครับ แต่โดยรวมทรงปากกานั้นจับถนัด เบา และขนาดกำลังดีไม่ใหญ่ไม่หนักเกินไป แต่เรื่องฟิลลิ่งในการวาดหรือเขียนของตัวปากกา ยังไม่ได้ดีมากเท่าไรนัก ไม่เหมือนกับรุ่นที่ออกแบบมารองรับโดยตรง หรือที่มากับตัวเครื่องจริงๆนั้นเอง อันนี้เป็นตัวอย่างการวาดคร่าวๆจากทางแอดมินนะครับ โดยใช้แอพที่มากับตัวเครื่องเลยสามารถปรับเส้น สีได้ แต่การลงสี อะไรพวกนี้ยังทำไม่ได้ครับ เน้นจดใช้งานมากกว่า

SCREEN

หน้าจอตัวนี้ เป็นการใช้จอที่มีขนาดใหญ่ยักษ์มากกก หน้าจอกว้างมากถึง  7.2 นิ้วความละเอียด 2244 x 1080 FHD+ แบบ OLED รองรับ HDR + DCI-P3 สำหรับเรื่องของการสู้แดด ความคมชัดไม่ต้องห่วงครับ แต่ด้วยความเป็นแค่ FullHD+ ในขนาดจอแบบนี้ถ้าคนใช้จอ 2K 4K มาก่อนอาจจะรู้สึกได้ครับถ้ามาเทียบหรือสลับกันใช้ แต่ถ้าไม่ได้เทียบหรือใช้แค่เครื่องเดียวมันก็ไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้นครับในเรื่องของความคมละเอียดของตัวจอ สีสันสวยงาม สดตามแบบ OLED เลยครับ สู้แดดได้สบาย และที่มืดก็หรี่ลงได้ค่อนข้างเยอะครับ โดยรวมหน้าจอไม่มีอะไรให้ติเลยครับ ส่วนปัญหาจอเขียว นั้นในรุ่นนี้ไม่เจอนะครับ ไว้ใจได้เลยไม่ต้องกังวลไป ส่วนการสัมผัสติดนิ้วได้ดีลื่นครับผมถ้าเอาฟิลม์แถมออกนั้นจะลื่นแบบที่มันควรจะเป็นเลยแหละ บางทีฟิลม์อาจจะทำให้สัมผัมไม่ได้ดีมากนักครับ จอนั้นใช้กระจก Gorilla Glass แต่ไม้่ได้ระบุรุ่นแน่นอน ก็หาฟิลม์กระจกติดไว้กันดีกว่าครับ+ สัมผัสลื่นกว่าฟิลม์แถม

Always On ตัวนี้มีมาให้ใช้งานกันด้วยเนื่องจากจอแบบ OLED ทำให้ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ค่อนข้างดีเลยแหละและตัวหนังสือเลขการแจ้งเตือนค่อนข้างชัดครับผม บอกเวลา วันที่ แบตและการแจ้งเตือนต่างๆได้ แต่ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เลยครับ หน้าตา สีหรืออะไรพวกนี้ ตั้งได้แค่เวลาที่ทำงาน หรือทำงานทั้งวันได้แค่นั้นครับผม

SOUND

ในเรื่องของตัวหูฟังยังคงใช้แบบเดิมกับรุ่นก่อนหน้าทั้งการออกแบบและคุณภาพเสียง แน่นอนว่ารุ่นนี้มี Software Dolby หรือทาง Huawei มาปรับมากมายครับ แต่เสียงจริงๆที่ออกจากตัวเครื่องกลับพบว่าไม่ได้พัฒนาขึ้นเท่าไรนัก แอดมินลองเสียงกับหูฟังหลายๆราคา ก็ยังพบว่าเสียงแทบไม่ต่างกับตัวก่อนหน้าในตัว P20 พวกนั้นโทนเสียง กำลังขับเหมือนกันมากๆครับ สำหรับใครที่เน้นเสียงเพลงอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เสียงออกมากำลังขับกลางๆ เสียงไปทางแหลมสูงมาก และ เบสมาแบบน้อยๆ ไม่ได้หนักแน่น มิติเสียงกลางๆไม่ได้เลวร้ายครับ  ในเรื่องของหูฟัง ตัวหูฟังมาในลักษณะเดิม โทนสีขาวรูปทรงคล้ายกับตัวเดิมมีปุ่มควบคุมทั้งหมดก็ยังมีมาให้ครับสายทั้ง 2 ข้างยาวเท่ากัน หูฟังตัวนี้เสียงออกกลางๆ เบสไม่แน่น เสียงโทนสูงแหลม โปร่งๆ ไม่ได้เด่นในเรื่องฟังเพลงมากนัก แต่ดีตรงที่ใส่สบายเวลาออกกำลังหรือไปข้างนอกวิ่งพวกนี้ ไม่ร้อนหูแบบพวก inear ค่อนข้างเบา และไม่แน่นเกินไป

SPEAKER 

ในด้านของลำโพง รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ลำโพงที่ดีที่สุดของทาง MATE 20 ทั้ง 3 รุ่นเลยก็ว่าได้ครับเนื่องจากมันมาลำโพง คู่แบบ วางขอบ บน และ ขอบล่างตัวเครื่อง ไม่ใช่ลำโพง ตรงที่คุยโทรศัพท์นะครับ ถือว่าดังที่สุดและมิติดีที่สุดในทั้ง 3 รุ่นที่ออกมาเลย และแยกซ้ายขวาชัดเจน เล่นเกมสะใจมากๆ และรวมถึงการดูหนังฟังเพลงคือดีงามจริงๆครับรุ่นนี้ ลำโพงดัง และ เนื่องจากมันมีเครื่องใหญ่ที่สุด ทำให้เสียงการวาง ลำโพง และขนาดลำโพงน่าจะทำได้ดีสุดเลย

GAMING

ในด้านของตัวเกมส์ตัวนี้เป็น CPU Kirin 980 7nm ตัวล่าสุดมาพร้อม GPU Turbo บอกเลยว่าเกมส์ที่รองรับทำได้สบาย สามารถปรับสุดได้เลย ตัวภาพ PUBGในส่วนของเกมส์อื่นๆนั้นทำได้ดีเลยไม่ว่าจะเป็น ROV -INJUSTICE 2- ROS -FORTNITE พวกนี้สบายลื่นๆตามคลิปได้เลยครับส่วนเรื่องของความร้อนหรือแบตนั้นทำได้ดี ไม่ร้อน และ อึดพอสมควรครับ ระบบระบายความร้อนรวมถึงตัว 7nm ช่วยได้อย่างมากในเรื่องนี้ แบตนี่อึดมากกก สายเกมส์ก็จัดกันได้ไม่มีปัญหา แต่เกมส์ที่ไม่ได้รองรับ GPU TURBO บางเกมส์นั้นอาจจะไม่ได้ลื่นมากนักแต่เกมส์ทั่วไปที่แอดมินลองต้องบอกว่าสบายๆเลยแหละ ความลื่นไหลติดนิ้วดีกว่าเดิม แต่บางเกมยังแอบชอบ Snap มากกว่านิดหน่อยครับ

GPS

ในเรื่องของ GPS ทางค่ายนี้เป็นจุดอ่อนมานานและก็มีการพัฒนาขึ้นเรือยๆครับตัวนี้น่าจะดีที่สุดของค่ายนี้แล้วทั้งระยะเวลาการจับ และ จำนวนที่จับได้ เจอ 33 จับได้ 32 ประมาณนี้ สถานะเหลือง+เขียวค่อนข้างดีและนิ่งครับในการนำทางจริงๆนั้นไม่เจอปัญหาหลุดอะไร จริงๆพวกเรือธงเจอปัญหาหลุดค่อนข้างยากครับในยุคนี้เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับค่ายนี้ที่แอดมินใช้ นำทางจัดได้ว่าโอเคและไม่ใช่จุดอ่อนแล้วนะครับถือว่าไว้ใจได้แล้วในการนำทางต่า่งๆ

BATTERY

ตัวแบตตัวนี้ต้องบอกเลยว่าโคตรอึด พี่จะอึดไปไหน แบต 5,000 อึดจากรุ่น 20 ไปอีก! ทั้งจอ FullHD CPU 7nm และ ระบบทั้งหลายนั้น ก็มีส่วนช่วยด้วยรวมถึงความจุแบต 5,000 จัดหนักจัดเต็มใช้ยังไงก็ไม่หมด ทั้งวันได้แบบสบายๆจนเหลือๆครับ จากการใช้งาน 12 ชั่วโมงทั้งวัน จอเปิด 5 ชั่วโมง ใช้งาน GPS ถ่ายรูป Social และก็มีการใช้งานกระจาย Hotspot internet แบตกลับมาห้องนั้นเหลือประมาณ 35%  บอกเลยครับว่า แบตค่ายนี้ไว้ใจได้เสมอจากที่ลองๆมาในหลายๆรุ่น Kirin  ค่อนข้างประหยัดแบตพอสมควรครับในรุ่นหลังๆ เค้าจัดการพลังงานมาได้ดีนะ ใช้งานก็ไม่ได้รู้สึกหน่วงหรือช้าอะไรมากเลยอันนี้ยอมรับในการพัฒนาที่เน้นเรื่องความอึดของการใช้งานได้ดีมากๆครับ ไม่ได้ดูดแบตหรือสูบเลยแม้จะแรงขึ้นเจ๋งดีในจุดนี้

CAMERA

กล้องหลังตัวนี้หน้าตาการใช้งานยังคงมีหน้าตาแบบเดิมครับโหมดทั้งหลายแบบเดิมเลยแต่มีการใช้ เลนส์ไวด์มุมกว้าง มาแทนขาวดำนั้นเอง ส่วนในเรื่องของสเปคนั้น กล้องหลังร่วมพัฒนากับ Leica มาพร้อมกับเลนส์ตัวหลัก ที่จะแตกต่างกับตัว MATE20 คือตัวนี้จะได้ กล้องหลักที่ 40 MP  f/1.8 aperture) + เลนส์มุมกว้าง 20 MP f/2.2 aperture + เลนส์เทเล 8 MP  f/2.4 aperture ระบบโฟกัส laser focus, phase focus, contrast focus  มีกันสั่นที่เลนส์เทเลเท่านั้น ตัวหลักไม่มีกันสั่นแต่อย่างใดครับผม เรามาชมภาพถ่ายกันเลยดีกว่าจากที่ลองภาพก็ออกไปสไตล์เค้าเลยสีจะสดเวอร์เกินจริงแต่งมาให้สวยจบเลย ยิ่งถ้าเปิด AI จะสวยแบบเวอร์ๆหน่อยครับอันนี้แล้วแต่คนชอบเลยแหละ แต่ถ้านับการใช้งานคือมันจะเน้นถ่ายง่าย มากๆครับ ใครถ่ายก็สวย และมุมกว้างแอดมินบอกเลยว่า ทำให้ถ่ายได้สนุกและได้มุมมองแปลกๆเยอะมากเลยครับ

MATE 20 X PORTRAIT – FACEBOOK  <<<< จิ้มไปเลยย แบบเต็มๆทั้งเซ็ท

ในภาพอาจจะมี 1 คน

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี 1 คน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง และข้อความ

SELFIES 

กล้องหน้าจัดเต็มพัฒนาจากรุ่นเดิม มาพร้อมความละเอยีด 24 ล้านพิกเซล f/2.0 Fixed Focus ครับผมส่วนเรื่องของภาพนั้นไม่ได้ขาวเวอร์แบบตัว P20 แล้วสมจริงมากขึ้น แต่ก็ยังขาวๆเนียนถ่ายใครก็สวยครับปรับระดับการแต่งหน้าได้ และมีโหมดแต่งไฟ ต่างๆหน้าเนียนทำได้หมดครับ และละลายหลังก็ยังมาเหมือนเดิมครับผม มุมกว้างพอสมควรเก็บได้หมดเลย เก็บระยะได้ค่อนข้างสวยเลยแหละ และย้อนแสงตรงๆก็ทำได้ดีทั้งหน้าคนและฉากข้างหลัง

VIDEO

Video สำหรับตัว  Huawei ทั้งการถ่ายแบบ  4K / FULLHD นะครับไปรับชมกันได้เลย ส่วนฟีเจอร์พิเศษที่เด่นๆเลยคือการแต่งโทนสี ละลายหลัง หรือดูดสีในวีดีโอ จะเป็นยังไงไปรับชมกันได้เลยครับ กันสั่นจริงๆจากที่ลองยังไม่ได้นิ่งมากนักครับ ตัวการถ่ายวีดีโอยังคงเป็นจุดที่ต้องปรับปรุงพัฒนากันต่อไปสำหรับทาง HUAWEI

HUAWEI MATE 20 X

” คนที่ต้องการ จอใหญ่ แบตอึด กล้องเทพ รองรับปากกา ต้องมองรุ่นนี้ “

เป็นรุ่นที่ทำออกมาได้ค่อนข้างครบเครื่องในการใช้งานหลายๆด้านยิ่งมามองทางด้านสเปคนั้น จะได้ทั้ง CPU ที่แรง แบตเยอะมาก จอใหญ่ และ กล้องหลังที่เรียกได้ว่าเทพสุดในค่ายเลย และแน่นอนว่าเป็นขนาดใหญ่ที่พกพาค่อนข้างง่ายครับ การใช้งานจากที่แอดมินได้ลองแล้วนั้นต้องบอกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีและครบเครื่องมากๆ ถ้าใครรับกับขนาดใหญ่ได้ก็คงใช้งานรุ่นนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องที่แอบขัดใจก็มีเรื่องของการกันน้ำ การชาร์จไร้สายที่น่าจะใส่มาให้ครบๆ จะลงตัวเลย และปากกาที่แถมมาใช้งานทั่วไปได้โอเคเลยถ้าใครสายวาดรูปนั้นอาจจะต้องไปลองกันก่อนว่าถนัดไหมกับฟิลลิ่งในการวาดเขียนที่ยังไม่ค่อยโอเคเท่าไรนั้นเองครับ

ข้อดี

  • หน้าจอสวย และ ใหญ่ชัดเจนมาก สู้แดดได้ดี
  • แบต 5,000 mAh โคตรอึด
  • ฝาหลังออกแบบมาสวยและกันรอยขัดได้ดี และ รวมถึงรอยนิ้วมือ
  • กล้องหลังทืั้ง 3 ตัวได้จากตัวเทพรุ่น PRO มาทั้งหมด
  • ลำโพงคู่ ดัง และ ดีสุดในตระกูล
  • ยังคงมีรู 3.5 มม. และ IR
  • KIRIN 980 7nm แรงและไม่กินแบตรวมถึงไม่ร้อน
  • รองรับปากกา และ มีให้ทุกเครื่อง !

ข้อสังเกต 

  • ไม่มีชาร์จไร้สาย
  • กล้องหลังตัวหลักไม่มี OIS แสงน้อยถ่ายภาพนิ่งมีผลนิดหน่อย
  • กันน้ำได้แค่ IP53
  • เพิ่มความจุได้แค่  NM card ต้องใช้ของ Huawei
  • ขนาดอาจจะใหญ่ยักษ์เกินไปสำหรับบางท่าน

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares