Huawei เป็นแบรนด์ที่ต้องบอกว่าเน้นเรื่องกล้องมาอย่างหนักตั้งแต่ยุค P9 ที่นำให้คนรู้จักกับกล้องขาวดำ Leica ที่เป็นการร่วมพัฒนา ไม่ใช่เลนส์จาก Leica นะอันนี้ทำความเข้าใจกันก่อน และต้องบอกเลยว่าหลังจากนั้นทุกคนแทบจะรู้จักมือถือกล้องเทพจากตัวนี้ เลยและเข้าใจไปเลยว่า Huawei ต้องกล้องสวยแน่นอนว่าก็ได้พัฒนามาเรื่องๆจาก 2 กล้องเป็น 3 กล้องและมาในรอบนี้ได้พัฒนาไปอีกโดยการนำเลนส์ มุมกว้างเข้ามาในเรือธงของค่ายครับ และมาในรุ่น Huawei mate 20 นั้นเองตัว Mate 20 เปิดตัวมาถึง 3 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ ตัวเล็กสุด Mate 20  ตัวเทพ Mate 20 Pro และ ตัวจอใหญ่ Mate 20X ที่แถมปากกาด้วยครับสำหรับคนไทยเท่านั้นด้วยโหดเลย แต่ในรีวิวนี้เรามาอยู่กับรุ่นเล็กสุดคือ Mate 20  ที่ใช้กล้องคนละแบบกับ 2 รุ่นนั้นแต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเลยจะเป็นยังไงไปชม !

Mate 20 รุ่นนี้มีจุดเด่นมากกว่าแค่กล้องครับแน่นอนว่า ทาง Mate 20 คือรุ่นแรกที่ใช้ Cpu Kirin 980 ที่ใช้เทคโนโลยนี 7nm ตัวแรกของค่ายเลย และรวมถึงการใช้กล้องหลัง 3 ตัวพร้อมเลนส์ไว์มุมกว้าง 104 องศาอีกด้วยและยังมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์การออกแบบมากมายและหน้าจอมาแบบเต็มจอแบบมีติ่งหยดน้ำด้วยครับอีกทั้งในเรื่องของระบบก็ยังมาด้วย Android 9.0 และ EMUI ตัวล่าสุดด้วยที่จัดฟีเจอร์มาค่อนข้างเต็มเลยครับในตัวนี้

Huawei Mate 20 เปิดราคามาที่ 24990 บาทมาทั้งหมด 2 สีครับ สีที่ในรีวิวคือ Twilight  และ  สี  Blue หรือสีฟ้าน้ำเงินนั้นเองครับ ต้องบอกว่าสี Twilight ค่อนข้างสวยเลยและมีแค่รุ่นนี้รุ่นเดียวเท่านั้น

 UNBOX

  • ตัวเครื่อง Mate 20
  • เคส TPU นิ่ม Mate 20
  • Adaptor ชาร์จไฟ Huawei Supercharge
  • สาย Type-C
  • หูฟัง 3.5 มม. แน่นอนว่ารุ่นนี้ยังไม่ตัดในส่วน รู 3.5มม !!

DESIGN

การออกแบบกันก่อนเลยตัวนี้เป็นการเปลี่ยนการออกแบบในด้านหลังแบบแตกต่างจากรุ่นก่อนแบบชัดเจนครับแน่นอนว่าตอนแรกที่เห็นสี่เหลี่ยมข้างหลังแบบนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไรเลยแต่เมื่อดูของจริงก็โอเคเลยไม่ได้แย่ครับ ส่วนเรื่องของวัสดุความหนาบางเบาพวกนี้อยู่ในระดับกลางๆไม่ได้บางมากหรือเบามากครับจับได้พอดีมือและโค้งรับมือได้ดีเลยวัสดุเป็นกระจกทั้งหน้าและหลังรวมถึงมีการไล่สีที่สวยงามและไล่ไปจบถึงขอบด้านข้างทั้ง 2 ข้างครับดูเนียนสวยเลยครับ

ด้านหน้า หน้าจอที่เต็มตาขอบบางกว่าตัว Pro ซะอีกเป็นหน้าจอที่มาพร้อมกับจอ ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2244×1080) แบบ RGBW IPS อัตราส่วนแบบ 18.7:9 screen ratio จอแบบ LCD นะครับไม่ใช่จอโค้งและ ครอบทับด้วย Gorilla Glass รองรับ DCI-P3 / HDR 10 ทั้งหมดครับผม และ มีติ่งหน้าจอด้วยนะ

ด้านขอบล่างหน้าจอต้องบอกว่าทำได้ค่อนข้างบางเลยแหละ บางกว่ารุ่นพี่มันซะอีกครับ ปุ่่มควบคุมไปบนจอทั้งหมดและสามารถใช้งานแบบไม่มีปุ่มหน้าจอก็ได้เช่นกันครับในตัวนี้ แบบปัดไปมาทำให้เต็มหน้าจอมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก

ในส่วนของขอบด้านบน ตัวนี้ไม่มีสแกนหน้าแบบ 3 มิติอะไรจึงได้ติ่งหยดน้ำ น่ารักๆมาครับ พร้อมกล้องหน้า ลำโพง และ เซนเซอร์วัดแสงต่างๆอยู่ในตรงติ่งตรงนั้นและ ลำโพงจะอยู่บนขอบตัวเครื่องครับผมซ่อนเนียนๆไป

มากันที่ด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นลำโพง หลัก ช่องชาร์จ TYPE-C และ ไมค์สำหรับไว้คุยอัดเสียงต่างๆครับ ขอบด้านล่างจะเป็นสีดำ แน่นอนว่าขอบด้านบนจะเป็นอีกสีนะครับ 2 สีไปเลยยันขอบเครื่อง  มาที่มุมด้านข้างจะเห็นชัดเจนเลยว่า มีการไล่สี  ด้านล่างนั้นจะเข้มและข้างบนนั้นจะอ่อนกว่าครับ ปุ่ม เพิ่มเสียง ลดเสียง และ ปุ่ม เปิดปิด  ซึ่งปุ่มเปิดปืด นั้นจะเป็นขอบสีแดงและมีพื้นผิวที่แตกต่างกว่าเพิ่มเสียงครับผม สำหรับในขอบด้านซ้ายตัวเครื่อง เป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมแบบ Nanosim Dualsim แบบ Hybrid แต่ !!! การเพิ่มความจุนั้นจะรองรับแค่ Nm Card เท่านั้นที่ทาง Huawei คิดขึ้นมาและไม่สามารถใช้ Micro SD ได้นะครับ ****สำหรับขอบเครื่องในส่วนบนนั้นจะเห็นว่าโทนสีจะไปออกสีน้ำเงินอ่อนครับ แน่นอนยังมีรู 3.5 มม. และ IR สำหรับควบคุม เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด แน่นอนว่ารุ่น Pro ไม่มี 3.5 ครับ เป็นจุดเด่น ที่ดียังไม่ตัดออกไปสำหรับ Mate 20

ด้านหลังจะเป็นการไล่สีแบบ Twilight ครับจะเป็นสีเข้มไป ม่วง และ ไฟน้ำเงินสวยงามมาก เปลี่ยนสีแล้วแต่มุมกล้องด้วยครับผม มี สแกนนิ้วด้านหลัง และ ตัวกล้องแบบ 4 เหลี่ยม วางกล้อง 4 มุมครับ ไฟแฟลชจะอยู่บนขวา แตกต่างกับตัว Pro ที่ไฟแฟลชนั้นจะอยู่มุมซ้ายบนครับผม และโมดูล 4 เหลี่ยมนั้นจะเล็กกว่าตัว Pro นั้นเอง

SPEC

  • ขนาดหน้าจอ: 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2244×1080) แบบ RGBW IPS 18.7:9 screen ratio
  • ซีพียู: Kirin 980 (Octa-Core 2 x Cortex A76 2.66 GHz + 2 x Cortex A76 1.92 GHz + 4 x Cortex A53 1.8 GHz) + Dual NPU
  • กล้องหน้า: 24 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้องหลัง: Triple Leica เลนส์ Wide 12MP RGB f/1.8 + เลนส์ซูม Tele 2x RGB 8MP f/2.4 + เลนส์ Ultrawide 16MP RGB f/2.2
  • หน่วยความจำ: RAM 6 GB / ROM 128 GB รองรับ NanoMemory Card สูงสุด 256GB NM Card 
  • แบตเตอรี่: 4000 mAh พร้อมระบบ Super Charge (ชาร์จเร็วสูงสุดถึง 22.5w)
  • สแกนนิ้ว ด้านหลังเครื่อง
  • ระบบปฎิบัติการ: Android 9.0 (Pie) + EMUI 9.0

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพของตัวเครื่องแน่นอนเลยครับว่าตัว Kirin 980 นั้นไม่มีอะไรติดขัดเลยด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแบบ 7nm ทำให้มันค่อนข้างดีเลยแหละ เพียงแต่บางแอพหรือบางส่วนยังไม่ได้ลงตัวมากนัก มาพร้อม  RAM 6GB ความจุ 128 GB ได้ UFS2.1  ส่วนคะแนน  antutu นั้นทำได้ไป 312891 คะแนน ถือว่าทำคะแนนได้แรงแต่อาจจะไม่ได้โหดทะลุ 35000 แบบที่หลายๆคนคิดแต่เกิน 30000 ก็ถือว่าโหดมากแล้วจริงๆอย่าไปอิงคะแนนมากครับเน้นใช้งานจริงจะดีกว่าว่าระบบทำได้ลื่นและดึงประสิทธิภาพออกมาได้ดีขนาดไหนครับผม

SYSTEM UI

สำหรับ Software นั้นมาพร้อมกับตัว EMUI ล่าสุดและ  Android 9 ครับ หน้าตาใกล้เคียงรุ่นเดิมแต่ปรับบางจุดเล็กน้อยครับ แอพการแจ้งเตือนเป็นจุด และ เลขในบางแอพ  และ App drawer นั้นสามารถเลือกได้ครับว่าจะมีหรือไม่มีทำให้เราสามารถตั้งค่าได้ครับ ไม่ได้ตัดออกไปไหน หน้าตาโดยรวมไม่ค่อยต่างจากรุ่นก่อนมากนักครับใน P20

สำหรับหน้าตา Quicksetting นั้นต้องบอกว่าอิงจากตัวเดิมแต่ปรับมาโทนสีขาวฟ้า และ ปรับแต่งได้ค่อนข้างเยอะเช่นเดิม อีกทั้งยังแบ่งหน้าจอได้ง่ายๆด้วยใช้ข้อนิ้วเคาะและลากครับก็จะสามารถแบ่งได้เลย

คียบอร์ดไทยนั้นยังคงใช้ Swiftkey เช่นเดิม ตัว MATE 20  มาพร้อมความจุถึง 128GB และ RAM 6 GB ครับ ว่างประมาณ 110 กว่าๆ และ RAM ใช้งานไป 3 GB ครับ เหลือๆสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปเลย

ในส่วนของการควบคุมนั้นจะเลือกได้ว่าจะเอาแบบ ปัดเต็มจอ หรือ ปุ่มแบบเดิมๆ ก็สามารถเลือกได้เลย Gesture นั้นมีเลือกมากมายทั้งเคาะหน้าจอถ่ายภาพ แบ่งหน้าจออะไรพวกนี้ครับ ยกขึ้นมาจะเงียบพวกนี้ยังคงมีมาครบ และแน่นอนว่าสามารถ สแกนใบหน้าได้ด้วยสำหรับตัวนี้ ทำได้ไวพอสมควร แต่ใช้งานแบบกล้องที่มืดเลยสแกนไม่ติดครับ

สำหรับตัวติ่งที่มีมาให้่ก็สามารถถมดำปิดไปได้ด้วยเช่นเดียวกันครับเนียนๆตาไปเลย หน้าตาแอพธีมอะไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ครับ ไอคอน การเปลี่ยนหน้าต่างๆ รวมถึงระบบเสียงก็รองรับ Dolby และปรับ EQ ได้ตามภาพเลยครับ

SCREEN

สำหรับหน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบ LCD นะครับ เป็นหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว IPD FullHD+ ตัวนี้หน้าจอจะชัดน้อยกว่ารุ่นพี่ Pro นะครับ แต่จะเท่ากับ MATE20X ใช้จอแบบ LCD รองรับ DCI-P3 HDR10 และ ใช้กระจก Gorilla Glass แต่ไม่ได้บอกรุ่นนะครับ จอไม่ได้เป็นจอโค้ง ส่วนจอจริงๆแอดมินเองชอบ LCD เป็นทุนเดิมครับเจอจอตัวนี้ไปเลยชอบเลยมันทำได้ดีครับทั้งสี ความสว่างและโทนภาพโดยรวมสีดีสวยสดไม่เวอร์และสู้แดดได้ดีเลยแหละ ในเรื่องของความสว่างตัวนี้เรื่องจอไม่ต้องพูดอะไรมาก ลงตัวทั้งหมด เสียดายแค่มันเป็น FullHD เท่านั้นครับ ไม่งั้นจะลงตัว

GAMING

ในด้านของตัวเกมส์ตัวนี้เป็น CPU Kirin 980 7nm ตัวล่าสุดมาพร้อม GPU Turbo บอกเลยว่าเกมส์ที่รองรับทำได้สบาย แต่เนื่องจากมันใหม่อยู่บางเกมส์แบบ PUBG ยังไม่รองรับภาพแบบสุดนะครับ แต่ในส่วนของเกมส์อื่นๆนั้นทำได้ดีเลยไม่ว่าจะเป็น ROV -INJUSTICE 2- ROS -FORNITE พวกนี้สบายลื่นๆตามคลิปได้เลยครับส่วนเรื่องของความร้อนหรือแบตนั้นทำได้ดี ไม่ร้อน และ อึดพอสมควรครับ ตัว 7nm ช่วยได้อย่างมากในเรื่องนี้ สายเกมส์ก็จัดกันได้ไม่มีปัญหา แต่เกมส์ที่ไม่ได้รองรับ GPU TURBO บางเกมส์นั้นอาจจะไม่ได้ลื่นมากนักแต่เกมส์ทั่วไปที่แอดมินลองต้องบอกว่าสบายๆเลยแหละ ความลื่นไหลติดนิ้วดีกว่าเดิม แต่บางเกมส์ยังแอบชอบ Snap มากกว่านิดหน่อยครับ

MUSIC SOUND

เพลงผ่านหูฟังตัวนี้ยังเป็นไม่กี่รุ่นในปลายปี 2018 ที่ยังมีรู 3.5 มม. ต้องมีหลายๆคนดีใจแน่ๆ ในเรื่องของตัวหูฟังยังคงใช้แบบเดิมกับรุ่นก่อนหน้าทั้งการออกแบบและคุณภาพเสียง แน่นอนว่ารุ่นนี้มี Software Dolby หรือทาง Huawei มาปรับมากมายครับ แต่เสียงจริงๆที่ออกจากตัวเครื่องกลับพบว่าไม่ได้พัฒนาขึ้นเท่าไรนัก แอดมินลองเสียงกับหูฟังหลายๆราคา ก็ยังพบว่าเสียงแทบไม่ต่างกับตัวก่อนหน้าในตัว P20 พวกนั้นโทนเสียง กำลังขับเหมือนกันมากๆครับ สำหรับใครที่เน้นเสียงเพลงอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก เสียงออกมากำลังขับกลางๆ เสียงไปทางแหลมสูงมาก และ เบสมาแบบน้อยๆ ไม่ได้หนักแน่น มิติเสียงกลางๆไม่ได้เลวร้ายครับ เสียงโดยรวมไม่ค่อยนุ่มเท่าไร ต้องหาตัวช่วยแทนหรือปรับผ่านทาง Software ก็อาจจะช่วยได้บ้างครับในจุดนี้หรือสายแปลง DAC แยกก็จะตอบโจทย์มากกว่า

ในเรื่องของหูฟัง ตัวหูฟังมาในลักษณะเดิม โทนสีขาวรูปทรงคล้ายกับตัวเดิมมีปุ่มควบคุมทั้งหมดก็ยังมีมาให้ครับสายทั้ง 2 ข้างยาวเท่ากัน หูฟังตัวนี้เสียงออกกลางๆ เบสไม่แน่น เสียงโทนสูงแหลม โปร่งๆ ไม่ได้เด่นในเรื่องฟังเพลงมากนัก แต่ดีตรงที่ใส่สบายเวลาออกกำลังหรือไปข้างนอกวิ่งพวกนี้ ไม่ร้อนหูแบบพวก inear ค่อนข้างเบา และไม่แน่นเกินไป คุณภาพเสียงเลยลองลงมาเน้นใช้งานคุยโทรศัพท์หรือคนที่ไม่ได้เน้นอะไรมากก็พอไหว หรือใช้เวลาออกกำลังก็จะทำได้ดีครับผมฟังนานๆไม่ล้าเท่าไรแต่แอบไม่ชอบมันติดแหลมไปนิดครับในส่วนของหูฟังแถมในกล่อง

SPEAKER 

ในด้านของตัวลำโพงตัวนี้มีการปรับพัฒนาขึ้นครับยังคงใช้ลำโพงคู่เช่นเคยเรามาดูเรื่องของเสียงกันหน่อยครับว่ามิติความดังพวกนี้จะเป็นยังไงที่ทดสอบนั้นได้ทำการปรับเป็นลำโพงคู่เวลาวางแนวนอนแล้วนะครับเรื่องของเสียงนั้นจะดีขึ้นกว่าแนวตั้ง เรามาเทียบกับตัวลำโพงคู่จากทาง Sony กันว่าจะเป็นยังไง ส่วนตัวที่แอดมินลองนั้นเสียงก็ถือว่าดีขึ้นจากรุ่นก่อนแต่ก็ไม่ได้มากครับ เมื่อเทียบกับทาง xz3 ยังเบากว่าและมิติน้อยกว่าแน่นอนว่าทั้ง 2 ตัวในคลิปยังคงด้อยกว่าเรือธงในหลายๆแบรนด์เช่น xs max / U12+/ Note 9 พวกนี้ครับ พวกนั้นถือว่าทำออกมาได้ดังเลย ถ้าใครเน้นลำโพงก็ต้องดูหรือไปลองฟังกันนะครับว่ารับได้ไหม หรือถ้าไม่เน้นจุดนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ

GPS

ในเรื่องของ GPS ทางค่ายนี้เป็นจุดอ่อนมานานและก็มีการพัฒนาขึ้นเรือยๆครับตัวนี้น่าจะดีที่สุดของค่ายนี้แล้วทั้งระยะเวลาการจับ และ จำนวนที่จับได้ เจอ 39 จับได้ 20 และ 28 ประมาณนี้ สถานะเหลือง+เขียวค่อนข้างดีและนิ่งครับในการนำทางจริงๆนั้นไม่เจอปัญหาหลุดอะไร จริงๆพวกเรือธงเจอปัญหาหลุดค่อนข้างยากครับในยุคนี้เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นปัญหาสำหรับค่ายนี้ที่แอดมินใช้ นำทางจัดได้ว่าโอเคและไม่ใช่จุดอ่อนแล้วนะครับถือว่าไว้ใจได้แล้วในการนำทาง

BATTERY

ตัวแบตตัวนี้ต้องบอกเลยว่าโคตรอึด พี่จะอึดไปไหน ! แน่นอนความอึดนี้ไม่ได้มาจากอะไรมาจาก 7nm Kirin 980 ที่พัฒนาในเรื่องการกินพลังงานมาดีขึ้นเยอะ และแน่นอนตัวจอ FullHD ก็มีส่วนช่วยด้วยรวมถึงความจุแบต 4000 จัดหนักจัดเต็มใช้ยังไงก็ไม่หมด ทั้งวันได้แบบสบายๆจนเหลือๆครับ แอดมินใช้ทั้งหมด 9 ชั่วโมง หน้าจอเปิดไปทั้งหมด 5 ชั่วโมง เน้นใช้งานคือ เล่นเกมส์ โซเชี่ยว ถ่ายรูป และ อัพข่าวสารทั่วไปแบบที่ทำกันในหลายๆรุ่น บอกเลยครับว่า แบตค่ายนี้ไว้ใจได้เสมอจากที่ลองๆมาในหลายๆรุ่น Kirin  ค่อนข้างประหยัดแบตพอสมควรครับในรุ่นหลังๆ

CAMERA —— รูปจัดเต็มนิดนึงนะ 

กล้องหลังตัวนี้ยังคงมีหน้าตาแบบเดิมครับโหมดทั้งหลายแบบเดิมเลยแต่มีการใช้เลนส์ไวด์มุมกว้าง มาแทนขาวดำนั้นเอง ส่วนในเรื่องของสเปคนั้น กล้องหลังร่วมพัฒนากับ Leica มาพร้อมกับเลนส์ ปกติ ทื่12MP RGB f/1.8 + เลนส์ซูม Tele 2x RGB 8MP f/2.4 OIS + เลนส์ Ultrawide 16MP RGB f/2.2 ครับผม มีกันสั่นที่เลนส์เทเลเท่านั้น ตัวหลักไม่มีกันสั่นแต่อย่างใดครับผม เรามาชมภาพถ่ายกันเลยดีกว่าจากที่ลองภาพก็ออกไปสไตล์เค้าเลยสีจพสดเวอร์เกินจริงแต่งมาให้สวยจบเลย ยิ่งถ้าเปิด AI จะสวยแบบเวอร์ๆหน่อยครับอันนี้แล้วแต่คนชอบเลยแหละ

PORTRAIT  ภาพเต็มๆตามไปได้ที่ –>> Facebook นะครับ 

PROMODE 

SELFIES 

กล้องหน้าจัดเต็มพัฒนาจากรุ่นเดิม มาพร้อมความละเอยีด 24 ล้านพิกเซล f/2.0 Fixed Focus ครับผมส่วนเรื่องของภาพนั้นไม่ได้ขาวเวอร์แบบตัว P20 แล้วสมจริงมากขึ้นนิดนึงงง แต่ก็ยังขาวๆเนียนถ่ายใครก็สวยครับ และมีโหมดแต่งไฟ ต่างๆหน้่าเนียนทำได้หมดครับ และละลายหลังก็ยังมาเหมือนเดิมครับผม มุมกว้างพอสมควรเก็บได้หมดเลย

VIDEO

Video สำหรับตัว  Huawei ทั้งการถ่ายแบบ 960 FPS / 4K / FULLHD นะครับไปรับชมกันได้เลยและต้องบอกก่อนว่า 960 FPS นั้นได้แค่ HD นะครับ เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่เหมือนจะถ่ายได้ง่ายขึ้นครับผม ส่วนฟีเจอร์พิเศษที่เด่นๆเลยคือการแต่งโทนสี ละลายหลัง หรือดูดสีในวีดีโอจะเป็นยังไงไปรับชมกันได้เลยครับในคลิปทดสอบมีครบ !

HUAWEI MATE 20

เป็นน้องเล็กสุดในตระกูลแน่นอนว่าราคาก็เป็นมิตรที่สุดแต่สิ่งที่ได้กลับชอบและลงตัวจริงๆชอบตั้งแต่จอ​LCD และยังไม่ตัดรู​ 3.5มม.ออกแล้งรวมถึงยังมี​ IR ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วย​เป็นหลายๆสิ่งที่คนตามหากันมาอยู่ในรุ่นนี้หมด​แน่นอนด้านอื่นๆก็ยังจัดเต็มไม่ว่าจะพวก​กล้อง​ Cpu​ หรือจะเป็น​ ระบบฟีเจอร์ที่ไม่ต่างกับรุ่นพี่เท่าไรเลย​ กล้องหลังเป็น​ 3 กล้องเช่นกันมาพร้อมกับเลนส์ไวด์มุมกว้าง​เทเล และ​เลนส์ปกติ​ กล้องต้องบอกว่าไว้ใจได้ครับในตัวนี้​ กล้องหน้าก็พัฒนาขึ้น​คมดีขึ้นไม่เหมือนตัวเก่า​คือมันเป็นอะไรที่ลงตัว​ แต่ถ้าคนจาก.P20 อาจจะไม่คุ้มที่จะเปลี่ยนเท่าไร​ และยังมีจุดเสียดายพวกเลนส์ขาวดำ​มันหายไปแล้วในรุ่นนี้​ รวมถึงCPU​ Kirin​980​จริงๆมันไม่ได้ว้าวมากนักจากเดิมแอบหวังไว้มากกว่านี้​ แบะตัวเสียงลำโพงหูฟัง​ค่อนข้างธรรมดามากๆครับ​เป็นสิ่งหลักๆที่แอบขัดใจ​ แต่ถ้าไม่ได้เน้นพวกเสียง​มันเป็นมือถือ​จอใหญ่แบตอึด​กล้องถ่ายง่ายที่ลงตัวมากๆครับ

ข้อดี

  • หน้าจอแม้จะเป็น LCD FULLHD แต่ทำได้สวยงาม สว่างและสีสวยครับ
  • งานประกอบค่อนข้างดีและแน่นหนา ตัวเครื่องสีโทนสวย
  • กล้องหลัง และ หน้า ยังคงไว้ใจได้ตามสไตล์ภาพแบบ Huawei
  • กล้องมุมกว้าง แบบไม่มีอาการเบี้ยวคือดีงามมาก
  • แบตอึดทั้งวันได้สบายๆ ใช้ยังไงก็ไม่หมด
  • ขอบหน้าจอทำได้บางสวย
  • สี TWILGIHT สวยและมีแค่รุ่นนี้

ข้อสังเกต

  • ระบบเสียงทั้งหูฟัง ลำโพง ยังไม่ใช่จุดเด่นตามเคย
  • กล้องหลังตัวหลักไม่มี OIS แสงน้อยถ่ายภาพนิ่งมีผลนิดหน่อย
  • ไม่มีชาร์จไร้สาย
  • กันน้ำได้แค่ IP53
  • เพิ่มความจุได้แค่ nm card ต้องใช้ของ Huawei

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

By Nineztr

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares