สมาร์ทโฟนในช่วงนี้ต้องบอกว่าแข่งขันกับดุเดือดมาก และยิ่งรุ่นใหม่ๆที่ออกมาราคาถูกสเปคดีกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรา แต่ยิ่งตัวเลือกมีมากในหลายแบรนด์หลายรุ่นบางท่านก็อาจจะสับสนและเลือกไม่ถูก และมีคำถามที่สอบถามเราเข้ามาเยอะมากโดยเฉพาะงบประมาณราคา 4,000 บาทควรเลือกรุ่นไหนดี ในบทความนี้เราจึงทำสรุปให้ชมกันว่าในเรทราคา 4,000 บาทนั้นจะมีตัวเลือกไหนน่าสนใจบ้างในช่วงเดือน พฤษภาคม ปี 2019 มีบางรุ่นพึ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆ และบางรุ่นพึ่งปรับลดราคากันแบบคุ้มๆ มารับชมกันเลย

HUAWEI Y5 LITE  RAM 1GB /16GB – 3,020 mAh ราคา 3,290 บาท

Huawei รุ่นนี้จะเป็นน้องเล็กของค่ายที่ตอนนี้ยังไม่มีตัวไหนมาแทนนะครับ เป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดใน List ที่ทางผมแนะนำ เปิดราคามาที่ 3,290 บาท ดีไซน์ยังถือว่าย้อนยุคไปหน่อยด้วยการที่เปิดตัวมานานกว่าเพื่อนๆเยอะพอสมควรแต่ถ้าใครชอบแบรนด์และหน้าตาของค่ายนี้มันก็อาจจะเป็นตัวเลือกเดียวในตอนนี้ครับผม ส่วนเรื่องสเปคนั้นน่าจะไม่ค่อนเด่นมากนักทั้งเรื่อง RAM ระบบต่างๆแต่เน้นราคาที่จับต้องได้ง่ายที่สุด
สเปค Huawei Y5 Lite 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 5.45 นิ้ว  ความละเอียด 1440×720 พิกเซล (HD+)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo (Android Go Edition)
  • CPU Mediatek MT6739 แบบ Quad-Core
  • RAM 1GB
  • STORAGE 16 GB 
  • กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 พร้อม Selfie Toning
  • สนับสนุน 4G LTE
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,020 mAh

realme C1 2019 RAM 2GB / 32 GB – 4,230 mAh ราคา 3,590 บาท

ค่ายนี้ต้องบอกว่าพึ่งมาในไทยไม่นานแต่ทำตลาดอย่างหนักหน่วงรวมถึงทำรุ่นที่คุ้มมากๆออกมาเช่น realme c1 และในปีนี้เค้าเปิดตัวรุ่นใหม่ของปี 2019 ที่มาพร้อม RAM 2GB STORAGE 32GB และปรับราคาเหลือแค่ 3,590 บาทถือว่าเป็นรุ่นที่น่าจับตามองที่สุดเลยเพราะราคาที่ปรับลงมาและสเปคที่ให้มาค่อนข้างดี รวมถึงได้ Snapdragon 450 ด้วยนั้นเอง และยังให้ความจุของแบตเตอรี่มามากที่สุดในเรทราคาเดียวกัน

สเปค realme C1 2019 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 720X1520 พิกเซล (HD+)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
  • Octa-Core  Qualcomm Snapdragon 450 ที่มีความเร็ว 1.8 GHz
  • RAM 2 GB
  • STORAGE 32 GB 
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2, รองรับระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF, โหมดการถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode)
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/2.2 AI Beautification
  • สนับสนุน Dual VoLTE
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity ,Gyroscope Sensor,Orientation Sensor,Magnetic Sensor
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,230 mAh Fastcharging 

 

WIKO VIEW 3 LITE  RAM 2GB /32GB – 4,000 mAh ราคา 3,990 บาท

รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นใหม่สุดๆคือใหม่มากจนหลายๆคนอาจจะไม่รู้จักแต่ทางผมนั้นก็มีเครื่องอยู่ในมือแล้วเลยพอเอามาแนะนำกันได้เพราะคงเปิดตัวในไทยเร็วๆนี้ ในชื่อรุ่น View 3 Lite รุ่นนี้นั้นแอดมินคิดว่ารูปร่างหน้าตาสวยงามใช้ได้เลยสู้กับ C1 ได้สบายๆครับ มาพร้อมกับ CPU ค่ายใหม่อย่าง Unisoc 9863C ชื่อแปลกใหม่มากๆครับ ไม่ใช่ Snapdragon ไม่ใช่ MTK และสเปคจะพอๆกับ Snap 400 และมาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งถือว่าสนใจเลยทีเดียว

สเปค Wiko View 3 Lite 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 6.0 นิ้ว ความละเอียด 720X1520 พิกเซล (HD+)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 9.0
  • Unisoc 9863C + Power VR GE8322
  • RAM 2 GB
  • STORAGE 32 GB 
  • กล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โหมดการถ่ายภาพบุคคล (Portrait Mode)
  • กล้องหน้าความละเอียด 6 ล้านพิกเซล
  • สนับสนุน Dual VoLTE
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
  • มีสแกนลายนิ้วมือ ในเครื่องจริง 
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity 
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh

NEFFOS C9A RAM  2GB /16GB – 3,020 mAh ราคา 3,990 บาท 

Neffos เป็นอีกค่ายที่ยังเดินหน้าทำการตลาดในไทยแบบเงียบๆถึงแม้จะไม่ได้หวือหวามากนักแต่ก็มีรุ่นในเรทราคานี้มาให้เราเลือกอยู่เหมือนกันและทางเราเคยรีวิวไปก็โอเคเลยแหละ มาพร้อมสแกนนิ้วเจ้าแรกในเรทราคานี้เลยครับส่วนเรื่องอื่นๆก็พอใช้งานได้และยังรองรับ 4G และมาพร้อม MTK 6739 ส่วนหน้าจอก็ไม่มีติ่ง

สเปค Neffos C9A 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด HD ( 720×1280 พิกเซล ) อัตราส่วน 18 : 9
  • รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับ NFUI 8.0
  • ชิปเซต MTK MT6739
  • GPU PowerVR GE8100
  • RAM 2GB
  • STORAGE  16GB 
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช LED
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล แฟลช LED
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • สแกนลายนิ้วมือ * 
  • แบตเตอรี่ 3,020 mAh

 

XIAOMI REDMI 6A RAM 2GB/32GB – 3,000 mAh ราคา 3,990 บาท

ค่ายนี้ถือว่าคุ้นเคยกันดีครับสำหรับสาวก Xiaomi Redmi ที่เน้นเจาะตลาดราคาไม่แพง ตอนนี้มีแค่รุ่นนี้ที่ยังคงต่ำกว่างบ 4,000 บาท แม้จะออกมานานแล้วซึ่งรุ่นใหม่ที่ออกมาแทนก็ถือว่าเปิดราคาแพงไปหน่อย สำหรับ redmi 7 ซึ่งน่าจะต้องรอ 7A เข้าไทยก่อนน่าจะตัดสินได้ง่ายขึ้น รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 1 ตัว และดีไซน์ดูค่อนข้างไม่ทันสมัยเท่าไร แต่ก็น่าจะถูกใจสำหรับคนชอบหน้าจอแบบไม่มีติ่งครับ และ MIUI ยังคงโดดเด่นอยู่สำหรับแบรนด์นี้

สเปค Xiaomi Redmi 6A 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด 720X1440 พิกเซล (HD+)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo
  • Mediatek Helio A22 QUAD core  PowerVR GE8320
  • RAM 2 GB
  • STORAGE 32 GB 
  • กล้องหลัง ความละเอียด 13ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity 
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh 

OPPO A1K   RAM 2 GB / 32 GB – 4,000 mAh  ราคา 3,999 บาท

รุ่นนี้ถือว่าสดๆร้อนกันเลยสำหรับแบรนด์ OPPO มาพร้อมกับ บอดี้สีแดงใหม่และ กล้องหลัง 1 ตัวแน่นอนว่าเปิดมาสู้กับมือถือในเรทราคานี้แต่ถือว่าค่อนข้างเสียดายที่มาแค่กล้องหลัง 1 ตัวและการออกแบบฝาหลังยังไม่ได้ดูมีอะไรมากนักเมื่อเทียบกับพวกรุ่นใหม่ๆ มาพร้อมกับหน้าจอติ่งแบบหยดน้ำเช่นกันครับและส่วนอื่นๆก็ถือว่าใช้ได้เลย เป็น Android 9 ออกมาเลยตั้งแต่แกะกล่องครับ แน่นอนว่ามันใหม่ที่สุดเลยนั้นเองมาพร้อมกับ MTK P22 นะในรุ่นนี้

สเปค OPPO A1K 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 720X1560 พิกเซล (HD+)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 9.0
  • Mediatek  Octa-Core Helio P22
  • RAM 2 GB
  • STORAGE 32 GB 
  • กล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 รองรับ  Bokeh Effect
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity 
  • รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh Fastcharging 

VIVO Y91C RAM 2GB /32GB – 4,030 mAh ราคา 3,999 บาท 

VIVO ก็มีเหมือนกันสำหรับรุ่นในเรทต่ำกว่า 4,000 บาท มาในชื่อ Y91C แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบฝาหลังได้สวยที่สุดเลยในบรรดาที่กล่าวมาทั้งหมด มาพร้อมกล้องหลังตัวเดียวอยู่เหมือนเดิม ไม่มีสแกนนิ้วมาให้ แต่ก็มีสแกนใบหน้ามาให้ครับ หน้าจอขนาด 6.22 นิ้ว ถือว่าใหญ่พอสมควร ใช้ MediaTek MT6762r (Helio P22) ตัวเดียวกับ OPPO A1K ครับ ส่วนเรื่องๆอื่นก็ถือว่าน่าใช้งานแต่เสียดายเรื่องของกล้องหลังที่มีมาแค่ตัวเดียว แต่ทุกอย่างนั้นจะทำออกมาใกล้ๆกับ A1K เลยแหละ แล้วแต่ชอบการออกแบบและหน้าตาระบบภายในแล้วว่าชอบแบรนด์ไหนกัน

สเปค VIVO Y91C 

  • หน้าจอ IPS ขนาด 6.22 นิ้ว ความละเอียด 720X1520 พิกเซล (HD+)
  • ระบบปฎิบัติการ Android 8.1
  • Mediatek  Octa-Core Helio P22
  • RAM 2 GB
  • STORAGE 32 GB 
  • กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2
  • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/1.8
  • Wi-Fi 802.11b/g/n, Bluetooth 4.2, USB 2.0, GPS, GLONASS, AGPS
  • เซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light, Proximity 
  • รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,030 mAh

จริงสมาร์ทโฟนเหล่านี้ก็มีข้อเด่นด้อยแตกต่างกันไปถือว่าแล้วแต่การใช้งานของแต่ละท่านว่าจะชอบหน้าจอใหญ่ แบตอึดหรือ ชอบทั้งหน้าจอใหญ่ แบตอึดก็มีหลายๆตัวที่ตอบโจทย์ รวมถึงมี CPU ที่แตกต่างกันไปของแต่ละค่ายครับทั้ง Snapdragon / MediaTek / UNISOC พวกนี้ก็ถือว่าน่าสนใจทั้ง 3 ค่ายเลยและมีราคาที่จับต้องได้ รวมถึงบางตัวก็มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวบ้างก็อาจจะได้เปรียบ และอีกจุดที่น่าจะต้องดูคือการรองรับ 4G รวมถึงพวกเซนเซอร์ Gyro อันนี้ก็สำคัญ หรือจะเป็นเรื่องของวัสดุคุณภาพการใช้งานทั้งหลายล้วนเกี่ยวข้องกันครับ และ RAM -STORAGE แน่นอนว่ายิ่งเยอะยิ่งสบายใจกว่า ยังไงสำหรับครั้งนี้ก็ประมาณนี้ครับเอามาพอเป็นตัวเลือกให้สำหรับท่านที่ตั้งงบ 4,000 บาทและหามือถือใหม่มาใช้งานกันครับ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับ เราจะมาแนะนำในรุ่นเรทราคาอื่นๆอีกในบทความครั้งหน้าครับ

 

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares