มาถึงปีใหม่แบบนี้แน่นอนว่าทุกๆปีเราก็จะมีการคัดเลือกรถที่ประทับใจที่สุดของ เว็บเราในแต่ละด้านครับ แน่นอนว่าฝั่ง TECHHANGOUT มีการจัดอันดับมาตลอด และ ในปีนี้ก็มีหลายๆรุ่นที่เราได้ทดสอบเยอะมากๆ แต่ที่เด่นๆ เด็ดๆบอกเลยว่าเลือกยากครับ ทั้งความเห็นทีมที่แตกต่างกันไป และ แน่นอนว่าจุดเด่นของแต่ละคันแตกต่างกันไป
แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับทุกแบรนด์ที่ได้รับรางวัลนะครับ ซึ่งในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าล้วนเริ่มเข้ามาเยอะมาก ทำให้รางวัลย่อยในส่วน BEV ก็มีหลากหลายเช่นกันครับ แต่สำหรับรางวัลของ ที่สุดของแต่ละแบบ ทั้ง BEV , PHEV , ICE ก็จะมี 3 คันเด่นๆที่ได้รับรางวัลไป บอกเลยว่า ประทับใจและภาพรวมนั้นทำได้ดีครับ ไม่ใช่แค่ดูสเปกแต่ทั้งฟีลลิ่งการขับ ช่วงล่างวัสดุงานประกอบ ดูทุกส่วนรวมถึง UI UX ของตัวรถ และ การใช้งานจริง การชาร์จไฟ การเข้าเกียร์ การส่งกำลังต่างๆรวมถึงโหมดช่วยเหลือการขับขี่ หรือแม้แต่งานออกแบบเช่นกันครับ
THE BEST ICE OF 2023 : รถยนต์สันดาปที่ดีที่สุดในปี 2023 :
” HONDA CIVIC TYPE-R “
ในยุคนี้ที่หลายๆค่ายเริ่มไม่ทำรถยนต์แบบเครื่องยนต์ล้วนกันเท่าไร แต่มันก็ยังมีหลายๆคันที่ยังคงสานต่อ และ ยิ่งเป็นเกียร์ธรรมดาด้วยแล้วแทบจะหาได้ยากมากครับ แต่มันมีคันนึงที่ทำให้ผมกลับมาขับรถยนต์ได้แบบสนุก ฟีลลิ่งดี และ เป็นฟีลลิ่งที่รถหลายๆคันให้ไม่ได้มันคือ CIVIC TYPE-R ในตำนานนั้นแหละ การที่มีเกียร์ธรรมดา และ การลากรอบเปลี่ยนเกียร์ต่างๆมันสนุกแบบที่ถ้าใครไม่เคยลองก็คงนึกไม่ออก รวมถึงการทำช่วงล่าง การควบคุมออกแบบมันกลายเป็นรถที่ขับสนุกที่สุดในปีที่ผ่านมาทันที ขับหน้าหน้าไวแต่คม มุดสนุก สับเกียร์ง่ายมีตัวช่วยเข้ามาเยอะ เทคโนโลยีช่วยขับก็ใส่เข้ามาได้ รวมถึงงานออกบบ ภายนอก และ ภายในยังคงสวยและเด่นเส้นสายไม่รก อีกทั้งยังคงเป็นรถที่ ดูแลง่าย ใช้งานได้หลายแบบ มีความอเนกประสงค์ได้อยู่ แต่ก็ขับสนุกได้ ซึ่งมันสามารถออกแบบมาตอบโจทย์ทั้งหลากหลายการใช้งาน หรือ ซิ่งก็ได้ และเบรคน้ำหนักการควบคุมทุกอย่างมันลงตัวแบบไม่ต้องทำอะไรแล้ว
THE BEST PHEV OF 2023 : รถยนต์ Plug in Hybrid ที่ดีที่สุดในปี 2023
” MERCEDES-BENZ GLC 350e 4MATIC “
การเปลี่ยนผ่านจากน้ำมันไปไฟฟ้าหลายๆค่ายก็เริ่มปรับตัวและ PHEV ก็ก้าวเข้ามาครับแน่นอนว่ามันเป็นรางวัลที่หลายๆตัวเลือกเข้ามาเยอะมากทั้งรถจีน รถยุโรปต่างๆ แต่คันนี้ที่ได้รางวัลมันมีหลายๆอย่างที่นอกเหนือจากแค่ระยะทางครับ ถ้ามองระยะทางที่ไกลที่สุดคันนี้อาจจะไม่ใช่ แต่ถ้ามองหลายๆองค์ประกอบ การขับขี่ ออฟชั่นต่างๆรวมถึงการชาร์จไฟอันนี้สำคัญ และ ระยะทางที่ใช้งานได้จริง อีกทั้งเป็นรุ่นที่พัฒนามาใหม่สดๆร้อนๆ และ แบตที่วิ่งได้ไกล 120 กม. จริงๆ อีกทั้งจุดที่ดึงคะแนนมากคือระบบการชาร์จ DC ที่ไม่ใช่แค่รองรับแต่มันสามารถเร่งการชาร์จได้โดยปุ่มเดียวมันจะจ่ายกระแสไฟแบบด่วนพิเศษให้เราทันทีเต็มที่ 60kW แบบเน้นๆจนเกือบ 100% ครับซึ่งเราไม่เคยเจอตัวไหนที่สามารถทำได้ มันทำให้ผมสามารถเดินทาง ต่างจังหวัดได้แบบไม่ใช้น้ำมัน และใช้เวลาชาร์จไม่ถึง 20 นาทีกับแบตขนาดใหญ่แบบนี้ อีกทั้งอัตราเร่ง การควบคุม นั่งสบาย และ กว้างก็ยังสามารถตอบโจทย์รถครอบครัวได้ดี
THE BEST BEV OF 2023 : รถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ดีที่สุดในปี 2023
” BMW i5 M60 xDRIVE “
รถยนต์ไฟฟ้าล้วนหลังจากที่ค่ายยุโรปก้าวเข้ามาลุยตลาดบอกเลยว่าแต่ละค่ายก็มาแบบไม่ธรรมดาครับ และ รถจีนเองก็พัฒนาได้เยอะมาก แต่รถยนต์คันนึงมันไม่ใช่ดูแค่สเปกความเร็ว หรือ ระยะทาง แต่ทั้งการขับขี่ การตอบสนองการควบคุมในความแรงระดับโหดๆ เบรคต่างๆมันสามารถเอาอยู่หรือไม่ รวมถึง UI UX ในตัวระบบรถ และ ความใช้งานง่ายอีกทั้งรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ทั้งคนชอบความแรง แต่ก็ยังมีพื้นที่นั่งสบายในด้านหลัง และ ยังมีช่วงล่างที่สามารถเอาสนุกได้ แต่นั่งหลังก็ไม่แข็งไป และ เป็นรถ Daily-Use ได้ อีกทั้งระยะทางการขับขี่ และ 0-100 ก็สามารถทำได้โหด และยังได้โมเดลใหม่สดเข้ามาทำให้หลายๆส่วนคิดมาตั้งแต่ต้นของการออกแบบ รวมถึงเสียงของตัวรถ และ มอเตอร์ที่จำลองการสั่นต่างๆก็มีความสนุกต่อการขับขี่ได้ดี ยังคงสื่อสารระหว่างรถกับคนขับได้ ไม่เป็นคอมพิวเตอร์ติดล้อเกินไปอันนี้เป็นจุดที่หลายๆค่ายยังต้องพัฒนากันไป และ ดึงความโดดเด่นกันมาครับ แต่สำหรับ BMW เค้าสามารถทำได้กับรุ่นนี้ และ ในหลายๆส่วนก็ยังตอบโจทย์ได้ทั้งหมดกับตระกูล i5 ของเค้าด้วยเช่นกันนะ
THE BEST HANDLING BEV OF 2023 : ขับขี่ดีที่สุดในปี 2023
” AUDI e-tron GT Performance “
การขับขี่ที่ดีที่สุดสำหรับค่ายนี้ผมชื่นชมตลอดเวลาทดสอบรีวิว และ สำหรับตัวไฟฟ้าล้วน e-tron GT แม้ว่าจะออกมานานแล้วก็ตามแต่การออกแบบ Platform ของเค้ายังคงทำได้ดีมากและผมแอบชอบมากกว่าค่ายพี่น้องซะอีกเพราะมันสามารถเซ็ทมาได้ลงตัวทั้งการขับที่สนุก หนึบ แต่ก็ไม่ได้กระด้างสปอร์ตมากเกินไปและความแรงที่เหมาะกับช่วงล่างของตัวรถ และการทำน้ำหนักพวงมาลัยของ AUDI ยังคงทำได้ประทับใจเราสามารถขับความเร็วสูงและเข้าโค้งแบบมั่นใจด้วยการกระจายระบบขับ4 QUATTRO ของเค้าสามารถกระจายน้ำหนักได้ทั้งทางตรงและทางโค้งบอกเลยว่าถ้าได้ลองจะติดใจครับ รวมถึงการยวยหรือย้วยไม่มีให้เห็นในรุ่นนี้แม้จะเจอโค้งโหดๆหรือขึ้นลงเขาก็ตาม เป็นรุ่นที่ผมได้ลองหลายๆครั้งก็ติดใจ และ ในบรรดา BEV ที่ลองมาในปี 2023 ยังไม่เจอตัวไหนที่การขับขี่ดีเท่าตัวนี้
THE BEST LUXURY BEV OF 2023 : หรูที่สุดในปี 2023
” Rolls-Royce SPECTRE “
พูดถึงความหรูหราคงไม่มีใครเกินค่ายนี้ครับทั้งด้วยการออกแบบการใช้งานวัสดุงานประกอบมือทั้งหมด การใช้หนังวัวเพศผู้ การที่เราสามารถสั่งโทนสีตัวรถได้ทั้งหมดทั้งนอกและในรวมถึงความเนี๊ยบของงานออกแบบ งานประกอบ และ การเก็บเสียงทุกอย่างคือที่สุดของรถยนต์ BEV ในแง่ของความหรูหรา ความปราณีตทั้งหมด แค่สัมผัสตัวเบาะเองก็จะรู้สึกถึงความนุ่มเนียน และ กลิ่นหนัง อีกทั้งลายไม้บนตัวรถ ความเงียบของมอเตอร์ในการทำงานทั้งเบาะตัวรถเอง หรือ ตอนขับเองก็ตามครับมันสามารถถ่ายทอดความพรีเมียมได้ทั้งหมดไม่ใช่แค่ราคาแต่ทุกๆอย่างของตัวรถเองมันจะบอกเราเลยว่าทำไมมันถึงได้รางวัลนี้ และ ค่ายนี้ก็ยังคงเป็นที่สุดในเรื่องอัครยานยนต์ที่ไม่ใช่แค่รถยนต์นั้นเอง
THE BEST BUDGET BEV OF 2023 : คุ้มที่สุดในปี 2023
” BYD DOLPHIN STD “
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคุ้มค่าขึ้นเรื่อยๆเพราะการมาของแบรนด์จีนด้วยเช่นกันครับ ทั้งนี้มันก็สู้กันดุเดือดแน่นอนและทำราคากันแบบไม่ธรรมดา แต่คันนึงที่โดดเด่นถ้ามองในแง่ของความคุ้มค่ากับ ระยะทาง การขับขี่ ออฟชั่น และ ขนาดตัวรถ BYD DOLPHIN STANDARD เองในราคาที่ 699,900 บาท มันสามารถตอบโจทย์คนที่อยากเริ่มต้นกับรถยนต์ไฟฟ้า และ ขนาดตัวรถที่ขับง่ายในเมือง ระยะทางได้เกิน 400 กม. และ ช่วงล่างการขับขี่ที่ไม่เบาหรือโยนย้วยมากเกินไป มีความมั่นใจในความเร็วสูง และ สามารถใช้งานนั่งได้สบาย ไปต่างจังหวัดได้ ระบบช่วยขับมาครบ ออฟชั่นครบ กล้องรอบคันหน้าจอขนาดใหญ่ และ พื้นที่ใช้สอยเหลือๆคันนี้มันตอบโจทย์คนเริ่มต้นได้ดีทุกด้านทั้งราคา ออฟชั่น ขนาด และ การรับประกันในช่วงปี 2023 ครับ
POPULAR VOTE BEV OF 2023 : รถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกใจแฟนเพจในปี 2023
” TESLA MODEL 3 HIGHLAND “
รางวัลนี้ขวัญใจแฟนเพจเน้นๆครับ เน้นไปที่ความชอบ ความรัก และ ถ้าจะเลือกรถยนต์ไฟฟ้าคันนึงจะนึกถึงคันไหน TESLA MODEL 3 สามารถเอาชนะใจหลายๆคนได้สบาย ทั้งตัวแบรนด์เอง ราคาเอง และ งานออกแบบเองก็ตาม รวมถึง ความเทพเรื่อง SOFTWARE ของตัวรถ และ ความแข็งของแบรนด์ที่ใครพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าต้องมี TESLA เข้ามาในหัวแน่นอน ทำให้มันสามารถเอาชนะส่วนนี้ไปได้ทันทีครับ และ การมาลุยตลาดไทยเองก็ทำให้ราคา ออฟชั่น และ ระยะทาง เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของคนชอบ เทคโนโลยี ชอบรถยนต์ไฟฟ้าได้แบบสบายๆด้วยเช่นกัน และ ในการออกรุ่น 2023 หรือ มีชื่อโปรเจค HIGHLAND ออกมาเค้าสามารถแก้จุดอ่อนของตัวรถได้ทั้งหมดจากรุ่นก่อน ทั้งภายนอก และ ภายใน งานประกอบ ความแสงสีมากขึ้น ก็ถือว่าสมเหตุผลที่หลายๆคนจะยังชอบและรักแบรนด์นี้
