ถึงแม้ว่าใสตอนนี้จะยังอยู่ระหว่างสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ แต่ Huawei ก็ได้เปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ในซีรีย์ Mate 30 เป็นที่เรียบร้อยแล้วในงานเปิดตัวที่เมืองมิวนิค,ประเทศเยอรมณี
Huawei Mate 30 Pro
ต้องยอมรับว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุดในเวลานี้แล้ว นอกจากเลนส์ Super Sensing 40MP จากรุ่น P30 Pro แล้วมันยังได้เลนส์กว้าง 40MP เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย โดยมันถูกเรียกว่า cine camera ซึ่งทั้งคู่จะใช้เซ็นเซอร์ ToF แบบ 3D สำหรับเรนเดอร์ bokeh ในการถ่ายวิดิโอ
กล้องหลังตัวที่สามจะมีความละเอียด 8MP ที่ซูมแบบ optical ได้ 3x (ระยะโฟกัส 80mm) และซูมแบบ hybrid ได้ 5x ส่วนของกล้อง 2 ตัวที่มีความละเอียด 40MP นั้นทั้งคู่มีขนาดกล้องที่ใหญ่และรูรับแสงที่เปิดกว้าง โดยตัวหลักจะมีเซ็นเซอร์ 1/1.7″ (f/1.6) และตัว cine camera มีเซ็นเซอร์ 1/1.54″ (f/1.8)
สำหรับการถ่ายวิดิโอนั้น รุ่นนี้จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Huawei ที่สามารถถ่ายวิดิโอ 4K ได้ที่ 60fps และสามารถถ่าย slow-mo ได่ถึง 7,680fps ที่ 720p อีกทั้งยังถ่าย time lapse ที่ 4K ได้โดยมี HDR+ และในการถ่ายแบบแสงน้อยการถ่ายวิดิโอสามารถเปิด ISO สูงสุดได้ถึง 52,000
The #HuaweiMate30 Pro makes sure you'll always capture 'that shot', with incredible ISO 409600 sensitivity.#RethinkPossibilities#HuaweiMate30 pic.twitter.com/ssWcpPjs8o
— Huawei Mobile IE (@HuaweiMobileIE) September 19, 2019
กล้องหน้า 32MP ของมันมีเทคโนโลยีการสแกน 3D แบบใหม่ และมีเซ็นเซอร์ที่ใช้จดจำการขยับของมือเราด้วย โดยทำงานร่วมกับ NPU ที่ชื่อ Da Vinci ด้วย
หน้าจอของมันจะมีขนาด 6.53 นิ้วที่โค้งด้านข้างถึง 88 องศาที่ Huawei เรียกว่า Horizon Display โดยเป็นหน้าจอแบบ OLED (1,176 x 2,400px) นอกจากนี้ปุ่มด้านข้างยังถูกเปลี่ยนเป็นแบบ virtual และตัวเครื่องกันน้ำได้ที่ระดับ IP68 เลยทีเดียว
เจ้า Mate 30 Pro จะใช้ชิปเซต Kirin 990 แบบ 7nm+ EUV พร้อมการ์ดจอ Mali-G76 MP16 ที่ถูกอัพเกรดให้เร็วขึ้น อีกทั้งการที่มีฟิล์มที่ทำจากแกรฟีน ทำให้การระบายความร้อนจากชิปเซนั้นค่อนข้างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของมันก็คือการชาร์จแบบไร้สายที่ไวถึง 27W และแบบมีสาย 40W ในแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh ซึ่งการชาร์จก็ถือว่าไวกว่าของ Samsung และ Apple อยู่ดี
ทางด้านของความจำมันจะมาพร้อม Ram 8GB และ Storage 128GB/256GB ซึ่งตัวเครื่องของมันจะมีให้เลือก 4 สีประกอบด้วย สีดำ, Space Silver, Cosmic Purple และ Emerald Green รวมทั้งอาจจะมีสีส้มและ Forest Green ตามมาในภายหลังด้วย
Huawei Mate 30 Pro (รุ่น4G) จะมีราคา 1,100 ยูโร(ประมาณ37,000บาท) ในรุ่น 8GB/256GB
Huawei Mate 30
สเปคของ Mate 30 ถือว่าใกล้เคียงกับตัว Pro มากกว่า Mate ในรุ่นที่ผ่านๆมา โดยหน้าจอของมันจะเป็นแบบ OLED ที่มีขนาด 6.62 นิ้ว (1,080 x 2,340px) ที่รองรับ HDR10 และ DCI-P3 เหมือนกับตัว Pro โดยหน้าจอของมันจะแบนกว่าตัว Pro และมีติ่งที่เล็กกว่า(ทำให้เซ็นเซอร์ 3D ต่างกันด้วย) ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
กล้องหลังของมันมีความละเอียด 40MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.7″ และตัวกรองสี RYYB (f/1.8) และเลนส์เทเล 8MP ที่ซูมแบบ optical ได้ 3x และแบบ hybrid 5x โดยกล้องทั้งสองตัวมี OIS แต่เลนส์กว้างถูกลดลงมาเหลือ 16MP (f/2.2) ส่วนของกล้องหน้ามีความละเอียด 24MP
ชิปเซตของมันจะใช้ Kirin 990 7nm แบบธรรมดา ส่วนของแบตเตอรี่จะมีการชาร์จไว 27W แบบไร้สายและ 40W แบบมีสายเช่นกัน ในแบตเตอรี่ขนาด 4,200mAh อย่างไรก็ตาม Huawei Mate 30 จะกันน้ำอยู่ที่ IP53 (กันละอองน้ำ)
Huawei Mate 30 จะวางขายที่ประเทศจีนในเดือนตุลาคมในราคา 800ยูโร (ประมาณ27,000บาท) มาพร้อม Ram 8GB เช่นเดียวกัน แต่ Storage เหลือ 128GB และจะไม่มีรุ่น 4G สำหรับรุ่นนี้
ระบบปฏิบัติการและ AppGallery
ระบบปฏิบัติการของ Huawei จะเป็นแบบ open source ที่ให้บริการขั้นพื้นฐานเหมือนกับของ Google ในตอนนี้ โดยทางบริษัทได้ลงทุนไปถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาโปรเจกต์นี้
ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอพต่างๆผ่าน AppGallery ของ Huawei ที่มีผู้ใช้งาน 390 ล้านไอดีเข้าไปแล้ว และมีการดาน์โหลดกว่า 1.8 หมื่นล้านดาวน์โหลดเข้าไปแล้วในปีที่แล้ว
