POCO F8 Series มาพร้อมเทคโนโลยีเสียงจาก Bose ก้าวสู่ยุคใหม่ของระบบเสียงอะคูสติกบนสมาร์ทโฟน
POCO แบรนด์เทคโนโลยียอดนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักเทคโนโลยี เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด POCO F8 Ultra และ POCO F8 Pro ในงานเปิดตัวระดับโลกที่บาหลี นับเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนเรือธงระดับพรีเมียมอย่างเป็นทางการ โดยนับเป็นก้าวสำคัญของ POCO ในการที่แบรนด์ได้ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนระดับแนวหน้าและมอบความคุ้มค่าและประสิทธิภาพสูงสุดผ่านเทคโนโลยีให้กับทุกคน นอกจากนี้ POCO ประเทศไทยยังเดินหน้ามอบประสบการณ์ครั้งใหม่ให้กับโลกสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดตัว POCO F8 Series ด้วยการร่วมโปรเจ็คสุดพิเศษระหว่าง POCO และ THE TOYS ศิลปินคนสำคัญเพื่อมอบบทเพลงพิเศษ “แบกเธอได้ (Your Duelist)” ซึ่งจะพร้อมให้ทุกคนรับชมรับฟังพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 18 ธันวาคมนี้
ภายในงาน POCO ได้ประกาศความร่วมมือกับ Bose ผู้นำระดับโลกด้านเสียง เพื่อนำเทคโนโลยีเสียง Sound by Bose มาสู่สมาร์ทโฟน F8 Series รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยความมุ่งมั่นร่วมกันในด้านประสิทธิภาพและนวัตกรรมระหว่าง POCO และ Bose เพื่อมอบเสียงที่คมชัด ดื่มด่ำ และคุณภาพสูงให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วโลกและยกระดับขีดจำกัดของประสบการณ์การฟังบนสมาร์ทโฟน
ยิ่งไปกว่านั้น POCO ประเทศไทยยังเดินหน้าเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ให้กับโลกสมาร์ทโฟน ด้วยการเปิดตัว POCO F8 Series ที่มาพร้อมกับการร่วมโปรเจ็คสุดพิเศษระหว่าง POCO และ THE TOYS ศิลปินชื่อดังชั้นแนวหน้าของเมืองไทยที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และเกมเมอร์ เพื่อร่วมกันรังสรรค์เพลงที่ถ่ายทอดออกมาในแบบฉบับของเกมเมอร์ การร่วมมือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของ POCO ที่ได้ถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ผ่านเสียงเพลงอย่างเต็มรูปแบบภายใต้บทเพลง “แบกเธอได้ (Your Duelist)” ที่จะพร้อมให้ทุกคนร่วมฟังและรับชม MV พร้อมกันในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 พร้อมกันทั่วประเทศบนช่องทางโซเชียลมีเดียหลักของ POCO และ What the duck
มร. คังโหลวผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และโฆษกของ POCO Global กล่าวว่า “ตลอดเจ็ดปีแห่งความพยายามอย่างทุ่มเท POCO ได้เติบโตจนกลายเป็นผู้เล่นหลักในตลาดสมาร์ทโฟน และท้าทายกับขนบเดิมๆ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สมาร์ทโฟน POCO F8 Series ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดย POCO F8 Ultra ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างแท้จริง ในขณะที่ POCO F8 Pro ยังคงยึดมั่นในปรัชญาของเราในการสร้างประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทรงพลังและรอบด้านให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น POCO กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมและแบรนด์จะยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและคุ้มค่าที่ทุกคนเข้าถึงได้”
POCO F8 Ultra: นิยามแห่งเรือธงขั้นสุด
POCO F8 Series รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นนำทัพโดย POCO F8 Ultra ได้เข้ามากำหนดนิยามให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งอนาคต ด้วยสถาปัตยกรรมชิปเซ็ตคู่ที่ผสาน Snapdragon® 8 Elite Gen 5 และชิปเซ็ต VisionBoost D8 ที่ได้รับการอัปเกรด จึงช่วยปลดล็อกศักยภาพประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์ เสริมด้วยประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียมด้วยเทคโนโลยีเสียง Sound by Bose POCO F8 Ultra ได้ผสานรวมเอาระบบเสียงระดับพรีเมียม ภาพอันสมจริง การถ่ายภาพระดับมืออาชีพ และสไตล์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์
ประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
POCO F8 Ultra เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon® 8 Elite Gen 5 โดยทำคะแนน AnTuTu ได้มากกว่า 3,944,9341 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น POCO F8 Ultra ยังมาพร้อมกับชิปเซ็ต VisionBoost D8 ที่ได้รับการอัปเกรดจึงช่วยให้ทุกเกม2 ได้รับประโยชน์จากฟังก์ชันประสิทธิภาพหลักสามประการ ได้แก่ อัตราเฟรมอัจฉริยะสูงสุด 120 FPS, ความละเอียดสูงสุด 1.5K และ Game HDR3 นอกจากนี้ยังมาพร้อม AI Super Resolution4 ผ่านโมดูล GEX ใหม่ ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อเกมยอดนิยม 5 เกม ซึ่งรวมไปถึง Call of Duty: Mobile และ Honkai: Star Rail จากการทดสอบประสิทธิภาพเกม RPG นั้นสามารถเล่นได้ต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมงที่ 120 FPS เมื่อใช้ AI Super Resolution23 และ Game HDR โดยประสิทธิภาพและคุณภาพของภาพไม่ลดลง25

ในระดับซอฟต์แวร์ WildBoost Optimization จะช่วยปรับสมดุลการทำงานของ CPU และการเรนเดอร์ของ GPU อย่างละเอียดส่งผลให้ใช้พลังงานน้อยลงและความร้อนลดลง เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล โดย POCO F8 Ultra ยังสามารถปรับแต่งอัตราเฟรมได้ต่ำสุด 1% อีกด้วย ในการเล่นเกม อัตราเฟรมเฉลี่ยสะท้อนความเร็วโดยรวมแต่การลดลงของประสิทธิภาพเพียงช่วงสั้นๆ ก็สามารถรบกวนประสบการณ์การเล่นเกมได้ นี่จึงเป็นจุดที่อัตราเฟรมต่ำ 1% นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันหมายถึง 1% ของเฟรมที่ต่ำที่สุดในช่วงการเล่น โดยหลักแล้ว เป็นการติดตามช่วงเวลาที่เกิดความหน่วงมากที่สุด จากการทดสอบการเล่นเกม FPS เป็นเวลา 2 ชั่วโมงที่อัตรา 120 FPS POCO F8 Ultra แสดงความเสถียรที่เหนือกว่า ด้วยอัตราเฟรมเฉลี่ย 119.65 FPS และอัตราเฟรมต่ำสุด 1% คงที่ที่ 89.71 FPS6 ในขณะที่ใช้พลังงานเพียง 3897.27 เมกะวัตต์6 ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่ง
เทคโนโลยี LiquidCool ยังช่วยรักษาความเสถียรในการเล่นเกมเป็นระยะเวลานาน ด้วยระบบช่องคู่แบบสามมิติ และระบบ IceLoop แบบสองชั้น ชั้นแรกมีพื้นผิวโค้งนูนขนาดใหญ่ที่จัดวางเพื่อสอดรับกับเมนบอร์ด ขณะที่ชั้นสองมีพื้นผิวโค้งนูนขนาดเล็กกว่า ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับชิป SoC และดีไซน์แบบวงจรคู่ยังช่วยจัดการความร้อนที่เกิดจากโมดูลกล้องอีกด้วย เมื่อผสานเข้ากับระบบ IceLoop6 ขนาด 6700 ตารางมิลลิเมตร ระบบนี้จะสามารถกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ประสิทธิภาพคงที่แม้จะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
นิยามใหม่ของประสบการณ์เสียงบนสมาร์ทโฟน
POCO F8 Ultra มาพร้อมความโดดเด่นในด้านระบบเสียงบนสมาร์ทโฟนโดยใช้เทคโนโลยีเสียง Sound by Bose ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความเป็นผู้นำด้านเสียงและการมอบประสบการณ์เสียงอันยอดเยี่ยมจากอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัด Bose จึงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างสรรค์ จากการร่วมมือกับทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญสูงของ POCO ในครั้งนี้ Bose ได้ช่วยพัฒนาระบบเสียงอะคูสติกแบบลำโพงสามตัวที่มีคุณภาพสูงสำหรับ POCO F8 Ultra โดยการนำสถาปัตยกรรมเสียงแบบ 2.1 ช่องสัญญาณมาใช้ ระบบนี้ช่วยให้ก้าวข้ามข้อจำกัดที่มีอยู่ในตัวของการออกแบบสมาร์ทโฟนขนาดพกพา เป็นครั้งแรกบนอุปกรณ์เสียงบนสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถสัมผัสเบสที่หนักแน่น เสียงที่ชัดเจน และดื่มด่ำไปกับความกว้างของเสียง จึงมอบประสบการณ์เสียงบนสมาร์ทโฟนที่ปฏิวัติวงการอย่างแท้จริง
ความร่วมมือครั้งนี้ก่อให้เกิดโปรไฟล์เสียงที่แตกต่างกันสองแบบบน POCO F8 Series ได้แก่ “Dynamic” ที่ให้เสียงเบสที่สมจริงและเต็มอิ่ม และ “Balanced” ที่ให้เสียงร้องที่สมดุลและบริสุทธิ์ โดยผู้ใช้สามารถเลือกโปรไฟล์เสียงที่ตรงกับความต้องการเพื่อยกระดับคุณภาพเสียงทั้งในด้านการเล่นเกม การสตรีม และการฟังเพลง
มร. นิคสมิธประธานฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยีเสียงและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Bose กล่าวว่า “Bose รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ POCO เพื่อมอบเสียงระดับพรีเมียมให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในยุคใหม่ ด้วยการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเสียงของ Bose เข้ากับนวัตกรรมด้านการออกแบบและเทคโนโลยีของ POCO ทำให้ POCO F8 Series มอบความคมชัดและความลึกระดับใหม่ ที่จะนิยามความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเสียงบนสมาร์ทโฟน”
มร. คังโหลวผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์และโฆษกของ POCO Global กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ Bose สำหรับคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนเป็นทั้งเครื่องเล่นเกมและลำโพงตัวหลัก ทำให้เสียงคุณภาพสูงเป็นสิ่งจำเป็น หลังจากร่วมพัฒนาทางวิศวกรรมมาหลายเดือน ตั้งแต่การออกแบบฮาร์ดแวร์ไปจนถึงการปรับแต่งประสบการณ์การฟังอย่างละเอียด ความร่วมมือครั้งนี้ได้เป็นก้าวใหม่สำหรับ POCO ในขณะที่เรายังคงเดินหน้าสำรวจว่าเสียงระดับพรีเมียมจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีของผู้คนได้อย่างไร”
หน้าจอแสดงผลคุณภาพสูง
POCO F8 Ultra สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล ด้วยการเปิดตัวหน้าจอ POCO HyperRGB ซึ่งแตกต่างจากหน้าจอแบบ OLED 2K ทั่วไป หน้าจอนี้ใช้นวัตกรรมโครงสร้างซับพิกเซล (subpixel) RGB เต็มรูปแบบ ซึ่งซับพิกเซลสีแดง-เขียว-น้ำเงินถูกใช้งานอย่างเต็มที่ ด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำกว่าจอหน้า POCO F7 Ultra รุ่นก่อนหน้าถึง 19.5%7 จึงมอบความหนาแน่นและความคมชัดของซับพิกเซลที่ยอดเยี่ยม ให้ภาพที่คมชัดและสดใสเทียบเท่ากับความละเอียด 2K
นอกจากนี้หน้าจอยังใช้วัสดุเรืองแสง M10 เป็นครั้งแรกในการเปิดตัวทั่วโลกครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 11.4%8 และลดการใช้พลังงานลงอีกขั้น ด้วยการรองรับการหรี่แสง DC ตลอดวันและความสว่างต่ำพิเศษเพียง 1 nits หน้าจอจึงมอบประสบการณ์การรับชมที่สบายตาแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน ขณะที่หน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว9 และขอบจอบางเฉียบก็ช่วยมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำทั้งการอ่าน ดูวิดีโอ และเล่นเกม
การถ่ายภาพระดับอัลตร้า

POCO F8 Ultra มอบการถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่เทียบเท่ากับประสิทธิภาพระดับพรีเมียม มาพร้อมเซ็นเซอร์ Light Fusion 950 ความละเอียด 50MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ที่มอบช่วงไดนามิกที่สูงและการใช้พลังงานต่ำ เพื่อให้สามารถถ่ายภาพได้นานยิ่งขึ้นแม้ในสภาพแสงที่ยากต่อการถ่ายภาพ นอกจากนี้ยังใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.31 นิ้ว พร้อมพิกเซลขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มีความไวแสงเพิ่มขึ้น 43%10 เมื่อผสานกับเลนส์ 1G+6P ที่ยอดเยี่ยมและกระบวนการเคลือบหลายชั้นที่แม่นยำ11 ระบบจะช่วยลดแสงแฟลร์และแสงสะท้อนของเลนส์ ช่วยเพิ่มความบริสุทธิ์ของภาพและปรับปรุงการแสดงผลรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งในเงามืดและไฮไลท์ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพที่คมชัดและมีรายละเอียด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพบุคคลทั้งยามพระอาทิตย์ตกดินและกลางคืน
ระบบนี้มาพร้อมกับเลนส์เทเลโฟโต้ Periscope 5x ความละเอียด 50MP ตัวแรกจาก POCO ที่ให้การซูมแบบออปติคอล 5 เท่า ซูมภายในเซ็นเซอร์ 10 เท่า และซูมแบบอัลตร้าซูมสูงสุด 20 เท่า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพระยะไกลไปจนถึงภาพบุคคลที่สวยงาม พร้อมรองรับการถ่ายภาพระยะใกล้เพียง 30 ซม. ฟังก์ชัน Motion Capture ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพเทเลโฟโต้ด้วยการปรับให้เข้ากับวัตถุที่เคลื่อนที่เร็วในระยะไกล ทำให้ภาพคมชัดและสวยงาม เมื่อถ่ายภาพดวงจันทร์ที่ในระยะการซูม 20 เท่า โหมด Super Moon จะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อเก็บภาพดวงจันทร์ด้วยรายละเอียดที่สดใสและความคมชัดอันน่าประทับใจ กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการถ่ายทิวทัศน์และภาพหมู่ สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ความละเอียด 32MP จะสลับเป็นโหมดมุมกว้างอัจฉริยะ 0.8 เท่าโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้สามารถถ่ายคนหรือวิวรอบๆ ได้มากขึ้นในทุกช็อต
การปรับปรุงซอฟต์แวร์ทำให้การถ่ายภาพน่าสนใจและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น โดยประกอบไปด้วยการถ่ายภาพแบบไดนามิกที่คมชัดความละเอียด 1440P พร้อมระบบกันสั่น EIS และการปรับปรุง HDR ที่ให้ภาพที่นุ่มนวล สดใส และคมชัดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพคอลลาจแบบไดนามิกหรือแปลงวิดีโอเป็นภาพแบบไดนามิกได้ ช่วยเพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพ และเพื่อให้การภาพถ่ายมีเอกลักษณ์และถ่ายทอดอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น POCO F8 Ultra ยังมาพร้อมฟิลเตอร์ฟิล์มโพสิทีฟใหม่ที่ให้โทนสีที่เป็นธรรมชาติและละเอียดอ่อน และฟิลเตอร์ฟิล์มเนกาทีฟที่ให้เอฟเฟกต์วินเทจแบบภาพยนตร์
แบตเตอรี่สมรรถนะสูง
POCO F8 Ultra มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 6500mAh (typ) ซึ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน POCO F Series เพื่อมอบการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และยังมีระบบชาร์จเร็ว 100W HyperCharge12 ที่ชาร์จเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 38 นาที13 ที่ความเร็วสูงสุด และรองรับการชาร์จไร้สาย 50W Wireless HyperCharge14 เพื่อความสะดวกในการใช้งานมาก ระบบชาร์จอัจฉริยะ15 ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิของโทรศัพท์ขณะชาร์จ เพื่อให้การใช้งานราบรื่นและมีความเสถียร โดยปรับความเร็วในการชาร์จอย่างชาญฉลาด (คำนึงถึงระดับแบตเตอรี่ อุณหภูมิ และการใช้งานแอป) และจัดสรรพลังงานระหว่างระบบกับแบตเตอรี่
สไตล์ที่ประณีตและความทนทานขั้นสุด

POCO F8 Ultra ผสานประสิทธิภาพระดับพรีเมียมเข้ากับสไตล์ที่ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 6.9 นิ้ว9 ดีไซน์โค้งมน ตัวเครื่องมีกรอบกลาง ดีไซน์กล้อง และกระบอกเลนส์ที่ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ มอบคุณภาพระดับเรือธงอย่างเต็มเปี่ยม แต่ยังจับได้อย่างถนัดมือ POCO F8 Ultra มาพร้อมขอบจอที่บางเฉียบขนาด 1.5 มิลลิเมตรในทั้งสามด้าน และ 1.68 มิลลิเมตรในส่วนด้านล่าง ซึ่งบางที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟนจาก POCO6
สำหรับด้านหลัง สี Denim Blue โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย16 ที่ดูอ่อนเยาว์ ผลิตจากวัสดุนาโนเทคโนโลยีเจเนอเรชั่น 3 ของ เสียวหมี่เพื่อความทนทาน ทนต่อสิ่งสกปรกและการสึกหรอ พร้อมสัมผัสที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนสี Black โดดเด่นด้วยโครงสร้างไฟเบอร์กลาสเคลือบเงาด้าน มอบทั้งความหรูหราและการจับที่ถนัดมือ ทังยังรวมไปถึงกระจก POCO Shield Glass และมาตรฐานกันฝุ่นและน้ำ IP6817 POCO F8 Ultra จึงผสานดีไซน์อันล้ำสมัยเข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างลงตัว
มอบการเชื่อมต่อสุดล้ำและประสบการณ์ใช้งานเหนือระดับ
POCO F8 Ultra ยกระดับประสบการณ์โดยรวมด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 318 ด้วยความชาญฉลาดและการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า ทั้งนี้ Xiaomi HyperIsland จะอยู่บนแถบสถานะ19 จึงใช้พื้นที่น้อยแต่ทำให้การโต้ตอบนั้นง่ายสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกันรวมไปถึงการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ขณะที่ Xiaomi HyperConnect20 รวมอุปกรณ์ของคุณเข้าด้วยกันและรับประกันประสบการณ์การเชื่อมต่อข้ามระบบนิเวศ ช่วยให้เวิร์กโฟลว์นั้นราบรื่นและให้คุณแชร์ไฟล์ได้อย่างง่ายดาย และ Xiaomi HyperAI21 ยังช่วยจัดการเครื่องมือขั้นสูงอย่าง AI Writing22 โดยสามารถสร้างข้อความ สรุปข้อความ ขยายเนื้อหา และตรวจสอบความถูกต้องของข้อความได้ ยกระดับประสบการณ์ AI ไปอีกขั้นด้วย AI Agent – Gemini23 ที่ขับเคลื่อนโดย Google Gemini23 ช่วยให้การทำงานต่างๆ ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเชิงลึก การสร้างรูปภาพและวิดีโอ Gemini Live และอื่นๆ อีกมากมาย
ยกระดับการสื่อสารขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรองรับ eSIM24 เพื่อความสะดวกสบาย และ Xiaomi Astral Communication เพื่อความยืดหยุ่น Xiaomi Astral Communication ประกอบด้วย Xiaomi Surge T1+ Tuner, Xiaomi Surge T1S Tuner และ Xiaomi Offline Communication25 ซึ่งช่วยให้สามารถโทรฉุกเฉินได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย Xiaomi Surge T1S Tuner และ Xiaomi Surge T1+ Tuner รุ่นอัปเกรดจะปรับแต่งสัญญาณที่แรงขึ้นอย่างชาญฉลาดเพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่นยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายโทรศัพท์มือถือสูงสุด 42%26, Wi-Fi/Bluetooth 31%26 และ GPS 15%26 ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ทำให้ POCO F8 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนคู่ใจที่ชาญฉลาดและใช้งานง่ายยิ่งขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลา
เพื่อเพิ่มความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น POCO F8 Ultra มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์พิเศษแบบพรีเมียมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทดลองใช้ Spotify Premium เป็นเวลา 4 เดือน, การทดลองใช้ YouTube Premium เป็นเวลา 3 เดือน และการทดลองใช้พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ 100GB บน Google One เป็นเวลา 6 เดือนฟรี30
การวางจำหน่ายในประเทศไทย
POCO F8 Ultra มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Denim Blue และ Black พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของก่อนใครในราคาพิเศษระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16:00 – 18 ธันวาคม 256830ที่ Shopee, Lazada, TikTok Shop และ mi.com โดยวางจำหน่าย 2 รุ่นความจุได้แก่
- POCO F8 Ultra รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 23,990 บาท* (จากราคาปกติ 24,990 บาท)30
- POCO F8 Ultra รุ่นความจุ 16GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 25,990* (จากราคาปกติ 26,990 บาท)30
พิเศษ! สำหรับลูกค้าสั่งซื้อ POCO F8 Ultra ในระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น. – 18 ธันวาคม 2568 รับฟรี Xiaomi Gaming Monitor G24i 2026 มูลค่า 3,990 บาท, ประกันตัวเครื่อง 2 ปี, ประกันหน้าจอแตก (เปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน), ใช้งาน YouTube Premium ฟรี 3 เดือน, ใช้งาน Google One 100GB ฟรี 6 เดือนและใช้งาน Spotify ฟรี 4 เดือน30

POCO F8 Pro: พลังเรือธงรอบด้านพร้อมแรงขับเคลื่อนขั้นสุดในทุกวัน
POCO F8 Pro มอบประสบการณ์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดรอบด้าน มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะและประสิทธิภาพอันราบรื่นในทุกแง่มุมของการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ POCO F8 Pro ก็ต่อยอดมาจากดีเอ็นเอที่มีประสิทธิภาพเดียวกันกับ POCO F8 Ultra โดย POCO F8 Pro ก็ใช้หน้าจอแสดงผล POCO HyperRGB ชั้นนำของอุตสาหกรรมแบบเดียวกันที่มอบความคมชัดระดับ 2K พร้อมลดการใช้พลังงานลง 22.3%27 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งยังใช้เทคโนโลยีเสียง Sound by Bose เพื่อประสบการณ์เสียงอะคูสติกระดับพรีเมียม POCO F8 Pro ยังทำงานบนระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 318, รองรับ eSIM24 และ Xiaomi Astral Communication รวมไปถึง Xiaomi Surge T1+ Tuner และ Xiaomi Offline Communication25
งานฝีมืออันประณีตและความสง่างามที่ร่วมสมัย
POCO F8 Pro ผสานเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ากับสุนทรียศาสตร์ร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความแม่นยำและสมดุลในการออกแบบรูปแบบใหม่ ฝาหลังได้รับการออกแบบด้วยกระจกแบบชิ้นเดียวชิ้นแรกของ POCO และได้รับการแกะสลักจากบล็อกแก้วหนา 2 มม. เพียงชิ้นเดียวผ่านการแกะสลักแบบเย็นด้วย CNC6 โดยผ่านขั้นตอนการแกะสลัก 3 ขั้นตอนการและอีกกว่า 41 ขั้นตอน ทำให้ได้ดีไซน์ของขอบกระจกหนา 1.3 มม.6 รอบตัวกล้องเพื่อเพิ่มมิติและพื้นผิวให้กับฝาหลัง และยังทำให้ดีไซน์ของขอบกระจกรอบกล้องสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแผงด้านหลังได้อย่างราบรื่น ดีไซน์นี้ยังมอบเอฟเฟกต์แบบ Glossy-Matte เป็นครั้งแรกของ POCO บนกระจกแบบกัดขึ้นรูปที่ผสานเข้ากับแผงด้านหลังแบบฝ้าเข้ากับดีไซน์ขอบกระจกทรงสี่เหลี่ยมมันวาวจึงให้ความรู้สึกพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
ตัวเครื่องของ POCO F8 Pro นั้นถูกหุ้มด้วยกรอบกลางโลหะระดับเรือธงที่มีดีไซน์โค้งมนแบบไมโคร ขอบของตัวเครื่องจึงโค้งเข้าหาแผงหลังอย่างนุ่มนวลจึงให้รูปทรงที่เรียบเนียนและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นตัวเครื่องยังถูกเสริมด้วยหน้าจออัตราส่วนทองคำขนาด 6.59 นิ้วเป็นรุ่นแรกของ POCO โดยมาพร้อมมุมโค้งมนขนาดใหญ่และตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียง 199 กรัม6 จึงมอบความสมดุลระหว่างการรับชมที่สมจริงและการใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ POCO F8 Pro ยังได้รับการรับรองมาตรฐานกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP6817 อีกด้วย
พลังระดับเรือธงพร้อมระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ

POCO F8 Pro ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon® 8 Elite Mobile Platform จึงมอบประสิทธิภาพระดับเรือธงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเล่นเกมที่หนักหน่วง นอกจากนี้ยังต่อยอดมาจากพื้นฐานระดับเรือธงที่ใช้ร่วมกันกับ POCO F8 Ultra โดยการผสานเทคโนโลยี WildBoost Optimization เข้าด้วยกันจึงช่วยปรับประสานการทำงานของ CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การปรับปรุงในปีนี้มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เสถียรและแม่นยำให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการคาดการณ์ฉากในเกมที่หนักหน่วงอย่างชาญฉลาดเพื่อป้องกันการตกของเฟรมเรต พลังขับเคลื่อนของประสิทธิภาพที่ต่อเนื่องนี้มาจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6210mAh (typ) ซึ่งรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า 16 ชั่วโมง6 และเมื่อจับคู่กับ HyperCharge 100W12 ก็สามารถชาร์จจาก 0 ถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 37 นาที28 เท่านั้น
เพื่อคงประสิทธิภาพพลังงานให้เสถียร เทคโนโลยี LiquidCool ได้นำระบบ IceLoop แบบ 3 มิติ 3 ชั้นของ POCO มาใช้เป็นครั้งแรก การออกแบบสามชั้นนี้ช่วยเพิ่มระยะห่างระหว่างหน้าจอและท่อระบายความร้อนเหลว (LHP) เพื่อลดความร้อนที่ผิวสัมผัส พร้อมทั้งขยับตำแหน่ง LHP ให้ใกล้กับ SoC มากขึ้นจึงทำให้สามารถดูดซับและถ่ายโอนความร้อนจากแกนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การปรับปรุงเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการระบายความร้อนสูงสุดได้ถึง 40% ภายในตัวเครื่องที่กะทัดรัดยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับ POCO F7 Pro29 เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าประสิทธิภาพจะยังคงเสถียรแม้ภายใต้การใช้งานหนักต่อเนื่อง
การถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่ช่วยยกระดับความคิดสร้างสรรค์
POCO F8 Pro มาพร้อมระบบถ่ายภาพที่สำคัญโดยกลายเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในกลุ่ม POCO Pro ที่มีกล้องเทเลโฟโต้โดยเฉพาะ จึงมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่หลากหลายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน กล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 50MP มาพร้อมการซูมแบบออปติคอล 2.5 เท่า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว และซูมแบบ Lossless 5 เท่า เพื่อภาพระยะใกล้ที่คมชัด การจับภาพเคลื่อนไหวด้วยกล้องเทเลโฟโต้จะช่วยให้สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวไว้ได้อย่างชัดเจน ทำให้การถ่ายภาพเทเลโฟโต้เป็นเรื่องง่ายและแม่นยำ กล้องหลักความละเอียด 50MP ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ Light Fusion 800 และระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) จะช่วยรับมือกับสภาพแสงที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ฉากย้อนแสงตอนกลางวันและภาพทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืนที่มีแสงนีออน
การปรับปรุงซอฟต์แวร์ที่คล้ายกับใน POCO F8 Ultra ได้ช่วยยกระดับความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์ขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งรวมไปถึงการถ่ายภาพไดนามิกที่คมชัดระดับ 1440P และการบันทึกช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ด้วยฟิลเตอร์ฟิล์มโพสิทีฟและฟิลเตอร์ฟิล์มเนกาทีฟ
การวางจำหน่ายในประเทศไทย
POCO F8 Pro มีให้เลือก 3 สีได้แก่ Black, Titanium Silver และ Blue พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้วในราคาพิเศษระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น. – 18 ธันวาคม 256830โดยวางจำหน่าย 2 รุ่นความจุได้แก่
- POCO F8 Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 16,990 บาท* (จากราคาปกติ 17,990 บาท) โดยระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16:00 – 2 ธันวาคม 2568 จะวางจำหน่ายเฉพาะที่ Lazada และ mi.com และตั้งแต่วันที่ 3 -18 ธันวาคม 2568 จะวางจำหน่ายที่ Shopee, Lazada, TikTok Shop และ mi.com30
- POCO F8 Pro รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 18,990 บาท* (จากราคาปกติ 19,990 บาท) โดยระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16:00 – 2 ธันวาคม 2568 จะวางจำหน่ายเฉพาะที่ Lazada และ mi.com และตั้งแต่วันที่ 3 -18 ธันวาคม 2568 จะวางจำหน่ายที่ Shopee, Lazada, TikTok Shop และ mi.com30
พิเศษ! สำหรับลูกค้าสั่งซื้อ POCO F8 Pro ในระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น. – 18 ธันวาคม 2568 รับฟรี Xiaomi Sound Outdoor 30W มูลค่า 1,790 บาท, ประกันตัวเครื่อง 2 ปี, ประกันหน้าจอแตก (เปลี่ยน 1 ครั้งภายใน 6 เดือน), ใช้งาน YouTube Premium ฟรี 3 เดือน, ใช้งาน Google One 100GB ฟรี 6 เดือนและใช้งาน Spotify ฟรี 3 เดือน30

ก้าวสู่อนาคตให้กับคนรุ่นใหม่
POCO ได้สร้างชื่อเสียงอย่างความแข็งแกร่งในวงการสมาร์ทโฟนระดับโลกตั้งแต่ปี 2018 ปัจจุบัน POCO ได้ขยายธุรกิจไปยัง 98 ตลาดทั่วโลก โดยมียอดจัดส่งมากกว่า 93 ล้านเครื่อง การเติบโตที่เข้มแข็งของแบรนด์นั้นได้รับการยอมรับมากขึ้นด้วยการติดอันดับที่ 35 ในรายชื่อ 50 แบรนด์จีนระดับโลกของ Kantar BrandZ ประจำปี 2025 (2025 Kantar BrandZ Top 50 Chinese Global Brand Builders list) สำหรับอนาคตในฐานะแบรนด์น้องใหม่ที่โดดเด่นและหยั่งรากลึกในเทคโนโลยีหลัก POCO ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและมีคุณภาพสูงให้ผู้ใช้ทั่วโลกเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น




