แบรนด์ย่อยของ Xiaomi อย่าง Redmi ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน Note 11T และ Note 11T Pro+ ไปแล้วที่ประเทศจีน โดยทั้งคู่เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นกลางที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.6 นิ้วที่มีรีเฟรชเรทปรับได้ 7 ขั้นสูงสุด 144Hz และรองรับ Dobly Vision

กล้องหน้าความละเอียด 16MP เป็นแบบเจาะรูอยู่กึ่งกลางหน้าจอด้านบน นอกจากนั้นทางบริษัทยังเผยว่าสมาร์ตโฟนดังกล่าวเป็นรุ่นแรกที่ใช้จอ LCD และได้รับการรับรองระดับ A+ จาก DisplayMate

Xiaomi Redmi Note 11T Pro and Pro+ unveiled in China, Note 11 SE tags along

สเปคโดยรวมของทั้งสองรุ่นเหมือนกันคือภายในตัวเครื่องใช้ชิบประมวลผล Dimensity 8100 ที่มีระบบระบายความร้อน VC liquid cooling และมาพร้อม RAM LPDDR5 8GB + ความจำ UFS 3.1 512GB ทางด้านซอร์ฟแวร์ทั้งสองรุ่นใช้ Android 12 ที่ครอบทับด้วย MIUI 13

กล้องหลังมีจำนวน 3 ตัวประกอบด้วยกล้องตัวหลัก 64MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GW1 ขนาด 1/1.72 นิ้วและขนาดพิกเซล 1.6μ + กล้อง ultra-wide 8MP + กล้องมาโคร 2MP

ความแตกต่างหลักระหว่างทั้งสองรุ่นคือแบตเตอรี่ที่รุ่น Pro มีแบตขนาด 5,080mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W ส่วนรุ่น Pro+ มีแบตขนาด 4,400mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W นอกจากนั้นรุ่น Pro+ ยังเป็นแบตแบบเซลล์เดียวและมาพร้อมชิบ Xiaomi Surge P1

ทาง Redmi ยังได้เปิดตัว Note 11T Pro+ รุ่น Astro Boy edition ที่มีลายตัวการ์ตูน Astro Boy สลักไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง

สเปคของ Redmi Note 11T Pro และ Note 11T Pro+
  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว FHD+ ที่ปรับรีเฟรชเรทได้ 30 / 48 / 50 / 60 / 90 / 120 / 144 Hz, DC dimming, สี 10-bit, รองรับ Dolby Vision, HDR10
  • ชิบประมวลผล Dimensity 8100 5nm ที่ใช้การ์ดจอ Mali-G610
  • RAM LPDDR5 6GB + storage 128GB, RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 256GB / 512GB
  • Android 12 ที่ครอบด้วย MIUI 13
  • ซิมคู่
  • กล้องหลัง
    • กล้องตัวหลัก 64MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Samsung GW1 ขนาด 1/1.72 นิ้ว
    • กล้อง ultra-wide กว้าง 119 องศา 8MP
    • กล้องมาโคร 2MP
    • ถ่ายวิดิโอได้ 4K
  • กล้องหน้า 16MP ถ่ายวิดิโอความละเอียด 1080p
  • ขนาดตัวเครื่อง: 163.64x 74.29 x 8.87มม. (Note 11T Pro) / 8.9มม. (Note 11T Pro+); น้ำหนัก: 200 กรัม (Note 11T Pro), 198 กรัม (Note 11T Pro+)
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm, ลำโพงคู่ Stereo, รองรับ Dolby Atmos
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง, เซ็นเซอร์อินฟราเรด, มอเตอร์ X-axis linear
  • ตัวเครื่องกันน้ำมาตรฐาน IP53
  • รองรับเครือข่าย 5G SA/NSA, Wi-Fi 6 (2.4 + 5GHz), 2×2 MIMO, Bluetooth 5.3, Beidou | GPS (L1+L5) |GLONASS | QZSS (L1+L5), NFC
  • ในรุ่น Note 11T Pro – แบตเตอรี่ 4400mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 67W
  • ในรุ่น Note 11T Pro+ – แบตเตอรี่ 5080mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 120W

ทั้งสองรุ่นมีให้เลือกในตัวเครื่องสีเงิน (Atomic Silver), สีฟ้า (Time Blue) และสีดำ (Midnight Black) โดย Redmi Note 11T Pro มีราคาอยู่ที่

  • 1,699 หยวน (ประมาณ8,700บาท) ในรุ่น 6GB + 128GB
  • 1,899 หยวน (ประมาณ9,700บาท) ในรุ่น 8GB + 128GB
  • 2,099 หยวน (ประมาณ10,700บาท) ในรุ่น 8GB + 256GB

ส่วน Redmi Note 11T Pro+ มีราคาอยู่ที่

  • 1999 หยวน (ประมาณ10,300บาท) ในรุ่น 8GB + 128GB
  • 2199 หยวน (ประมาณ11,300บาท) ในรุ่น 8GB + 256GB
  • 2399 หยวน (ประมาณ12,300บาท) ในรุ่น 8GB + 512GB
  • สำหรับรุ่น Astro Boy Special Edition ราคา 2,499 หยวน (ประมาณ12,800บาท) ในรุ่น 8GB + 512GB

ซึ่งทุกรุ่นจะถูกวางขายที่ประเทศจีนในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้

SOURCE1, SOURCE2