Nokia ถือว่าเป็นค่ายที่หลายๆท่านคงจะรู้จักกันดีแน่นอนว่าห่างหายกันไปซักพักแล้วแต่ครั้งนี้เค้ากลับมาแล้วและลุยทำตลาดอย่างต่อเนื่องเรียกได้ว่าปล่อยกันออกมาทั้งเรือธง เรือกลาง ในหลายๆราคาด้วยกันรวมถึงในประเทศไทยก็มีการนำมาขายกันอยู่เช่นกันในรุ่น Nokia 8.1 รุ่นล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยการเป็นเรือกลางในราคาหมื่นต้นๆที่มาพร้อม Snapdragon 710 และ กล้องหลังคู่เลนส์ ZEISS ที่ยังรองรับ OIS-EIS อีกด้วยครับ ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจของค่ายนี้ และยังคงใช้งาน Android One เช่นเดิมครับในค่ายนี้ ส่วนการใช้งานจะเป็นยังไงมาดูกันเลยสำหรับรีวิวตัวนี้จากทาง Nokia 8.1

Nokia 8.1 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นยังคงชูในเรื่องของความแข็งแรงที่โดดเด่นง่านประกอบที่แน่นมากๆ พร้อมหน้าจอ IPS LCD แบบ PureDisplay ขนาด 6.18 นิ้ว ความละเอียด 1080p พร้อมด้วยกล้องหน้า ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 12 + 13 ล้านพิกเซล เลนส์ Zeiss ที่รองรับ OIS-EIS ด้วยในกล้องหลัง ส่วนในเรื่องของสเปคใช้ Snapdragon 710 RAM 4 GB, STORAGE 64 GB  และ มาพร้อมกับ Android One ที่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์นาน 2 ปี และอัปเดตความปลอดภัยไปอีก 3 ปี รวมถึงแบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh ที่รองรับ Fast Charge ระดับ 18 W ถือว่าเป็นสเปคที่ให้มาค่อนข้างเพียงพอในแง่ของการใช้งานทั่วไปครับ

สำหรับราคา Nokia 8.1 วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่สี Steel/Copper และ Iron/Steel ราคา 13,900 บาท 

UNBOX

  • ตัวเครื่อง NOKIA 8.1
  • หูฟัง IN-EAR 3.5 มม.
  • ที่ชาร์จ 18W
  • สายชาร์จ Type-C
  • คู่มือ ที่จิ้มซิม

DESIGN

ด้านการออกแบบนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ยังคงแนวทางเดิมไว้ทั้งในด้านหลังและด้านหน้าครับ แน่นอนว่าจุดเด่นๆคือการใช้วัสดุของทางค่ายนี้ที่ทำออกมาได้ดีและแข็งแรงรวมถึงานประกอบที่หนักแน่นมากๆ แน่นอนว่าตัวเครื่องค่อนข้างรู้สึกหนักกว่าคู่แข่งหลายๆตัวคือจับแล้วมันให้ความรู้สึกแข็งแรงเอามากๆ ส่วนในแง่ดีไซน์เรียบๆไม่ได้หวือหวา หรือมีการเล่นสีแบบรุ่นใหม่ๆสมัยนี้เท่าไรค่อนข้างคลาสสิคไปนิดนึง กล้องหลังคู่ สแกนนิ้วด้านหลังมาให้ครบ แต่แอบนูนไปหน่อยในส่วนกล้อง และ หน้าจอยังถือว่าเป็นติ่งหน้าจอที่ใหญ่มากๆเมื่อเทียบกับการออกแบบในปีนี้

ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอที่มีรอยบากถือว่าใหญ่พอสมควรครับ หน้าจอมีขนาด 6.18 นิ้วมีความละเอียดที่ FHD+ เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD นะครับ ครอบทับด้วย NEG Dinorex และ รองรับ HDR10 ด้วยนะ แน่นอนว่าหน้าจอใช้ได้เลยแต่เสียดายตรงการออกแบบติ่งที่มีขนาดใหญ่มากและยังไม่ใช้ AMOLED นั้นเองทำให้ดำไม่สนิทมากครับ

ด้านบนของหน้าจอนั้นเป็นรอยบากที่มีขนาดใหญ่มากๆ และมีกล้องหน้า 20MP ลำโพง รวมถึงเซนเซอร์ต่างๆครับ ในส่วนของรอยบากครั้งนี้ปิดได้แล้วนะแม้จะเป็น Pure Android ก็สามารถปิดรอยบาก ซ่อนได้ด้วยนั้นเองครับ

ในเรื่องของตัวขอบหน้าจอด้านล่างต้องบอกว่ามีขนาดพอสมควร และยังสกรีนโลโก้มาให้ในขอบด้านล่างด้วยครับ ตัวโลโก้ Nokia ในด้านหน้าถือว่าไม่ได้เกะกะมากเพราะหลายๆค่ายจะเอาโลโก้ด้านหน้าออกกกันหมดแล้วหลังๆ  ส่วนปุ่มควบคุมเป็นแบบ Android 9 ที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้นะครับ ใช้ได้แค่แบบเดียวเลย

ในส่วนของด้านล่างจะมี ลำโพงหลักของตัวเครื่องที่มี Smart PAในตัว และ ช่อง USB-C รวมถึง รูไมค์สนทนา

ขอบด้านข้างต้องบอกว่าทำออกมาแข็งแรงมากใช้วัสดุตัวเครื่องแบบอลูมิเนียมเกรด 6000 Series จับแล้วรู้สึกแข็งแรงเลยแหละ แถมมีการเล่นสีตัดขอบทองแดงมาให้ด้วยก็ถือว่าไม่เรียบเกินไป ตัวถาดซิมมาพร้อมกับ Hybrid Slot ที่รองรับ Dual 4G+ และในแง่ของ Wi-Fi รองรับทั้ง  2.4 – 5 GHz รวมถึง มี Bluetooth 5.0 พร้อม NFC

ขอบด้านบนตัวเครื่องจะเห็นว่ามันเป็นสันขอบที่เน้นความแข็งแรงอย่างมาก ตัวฝาหลังเป็นแบบเรียบไม่มีการโค้งรับมืออะไรเท่าไร และการเล่นสีทองแดงตามขอบก็วนรอบเครื่องครับ ตัวเครื่องทำมุมแบบนี้ค่อนข้างแข็งแรงเวลาตกหล่นอะไรช่วยได้เยอะ และ ขอบด้านบบนจะเป็นรูหูฟัง 3.5มม. และ รูไมค์สำหรับอัดเสียงแบบ OZO อีกด้วยรอบทิศทาง

ในขอบด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Power และ เพิ่มลดเสียงเป็นหลัก วัสดุแบบเดียวกับตัวขอบเครื่องรวมถึงเป็นสีเดียวกันด้วยทำได้ค่อนข้างแน่นหนาและแข็งแรงดี ส่วนปุ่มไม่ย้วยไม่โยกเยกเท่าไรครับ

ในส่วนของฝาหลังจะเป็นกระจกเรียบๆไม่โค้งครับเป็นโทนสีเท่าแบบเดียวไม่มีการเล่นสีอะไรทั้งนั้น พร้อมสกรีนโลโก้แบรนด์ รวมถึง Android One ชัดเจน กล้องหลังค่อนข้างนูนออกมาและมีสกรีน ZEISS บอกด้วยว่าเลนส์ร่วมมือกับค่ายนี้ ซึ่งเป็นกล้องหลังคู่ เลนส์ ZEISS OIS , EIS ซึ่ง เลนส์หลักความละเอียด 12 MP AF f/1.8  SONY IMX 363 และ อีกเลนส์เป็น กล้องวัดความลึกของภาพ 13MP f/2.0 จริงๆแอบเสียดายน่าจะให้เลนส์เทเล หรือ มุุมกว้างมาน่าจะดีกว่านี้เยอะเลยแอบเสียดายมากๆ

SPEC

  • หน้าจอ PureDisplay ขนาด 6.18 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับ HDR10
  • CPU  Snapdragon 710
  • GPU Adreno 616
  • RAM  4GB STORAGE  64GB รองรับ MicroSD Card (Hybrid)
  • กล้องหลังคู่  12MP( f/1.8, 1/2.55″, 1.4µm, dual pixel PDAF) + 13MP , OIS + EIS
  • กล้องหน้า 20MP(f/2.0, 0.9µm)
  • มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac รองรับ 2.4GHz 5GHz
  • Bluetooth 5.0,
  • USB-C
  • รองรับ 2 SIM
  • แบตเตอรี่ 3500 mAh รองรับ  Fast Charge 18W
  • ขนาด  154.8 x 75.76 x 7.97 มม.
  • น้ำหนัก 180 กรัม

PERFORMANCE

ทางด้านประสิทธิภาพตัวนี้มาพร้อมกับ Snapdragon 710 ที่ทำงานร่วมกับ GPU Adreno 616 แน่นอนว่าค่อนข้างไว้ใจได้เลยแหละทำคะแนนไปได้ 161638 Antutu ส่วนคะแนน Geekbench นั้นทำได้ 1851/5866 ซึ่งเมื่อเทียบกับระดับราคาประมาณนี้ในหลายๆตัวก็ถือว่าแรงใช้ได้ครับ ส่วนหน่วยความจำเป็น EMMC5.1 และได้ DRM L1 สำหรับความปลอดภัย เมื่อมองในแง่ของการดูหนังนั้นก็ไม่มีปัญหาแน่นอนสำหรับ NETFLIX HD

SOFTWARE UI 

ระบบของทาง Nokia นั้นยังคงใช้งาน Android One อยู่ครับทำให้ระบบนั้นลื่นไหลและอัปเดตความปลอดภัย ระบบต่างๆได้ดีและไวมากๆ แต่ก็ต้องยอมรับกับหน้าตาเดิมๆเรียบๆที่อาจจะปรับแต่งได้น้อยกว่าคนอื่นนั้นเอง และมาพร้อม Android 9.0 ตัวล่าสุดครับ หน้าตาทั้งหลายก็น่าจะคุ้นเคยกันดีไม่มีการปรับแต่งเลย มาพร้อม Appdrawer เช่นกัน

หน้าตาในตัวตั้งค่า นั้นจะเป็นโทนขาวฟ้า ตามธีมนะครับสามารถปรับธีมมืดได้ด้วย ส่วนการปรับแต่งตั้งค่าก็ทำได้ครับและ มองเห็นชัดเจนไอคอนวงกลม ส่วน การแบ่งหน้าจอก็ทำได้เช่นกันสามารถเลือกแอพได้ แบ่งโดยการแตะโลโก้แอพค้างไว้เวลา จะเคลียร์แอพ และเลือกแบ่งหน้าจอนะครับ รองรับหลากหลายแอพพอสมควรเลยนะจากที่ลองใช้งาน

ในด้านของที่เก็บข้อมูลนั้นให้มา 64GB ที่เหลือใช้งานจริง 50GB ถือว่าพอใช้ได้เลยแต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งบางตัวอาจจะดูน้อยไปแล้วในสมัยนี้ ส่วน RAM 4 GB ใช้งานจริง 2.4 ครับ ถือว่าเหลือๆเพราะ Android One ค่อนข้างไม่กินเท่าไร และ คีย์บอร์ดนั้นเป็นของทาง Google เองเลยเป็นคีย์บอร์ดอันดันต้นๆที่ผมชอบเลยแหละ

การแสดงผลนั้นก็สามารถปรับโทนสีของจอภาพได้ และ สามารถปิดติ่งหน้าจอได้ด้วย เมื่อปิดแล้วจะเป็นแถบสีดำมาเติมตรงที่ปิดไปนั้นเองครับ และ มีหน้าจอ Ambiant แจ้งเตือนขาวดำเวลาวางมือถือไว้ครับ ไม่ได้ติดตลอดนะ การใช้งานก็สามารถแตะเพื่อเปิดหน้าจอได้ คว่ำเพื่อวางสายต่างๆทั้งหลายประมาณ 6-7 วิธีครับตามภาพตรงกลาง เป็น Gesture พื้นฐานของระบบ  Android  และอีกจุดที่ชอบคือยังมีแอพ FM มาให้ในเครื่องซึ่งถือว่าหาได้ยากในหลายๆค่ายเลย

SCREEN 

หน้าจอรุ่นนี้เป็นหน้าจอขนาด 6.18 นิ้ว FHD+ Pure Display  ที่รองรับ HDR 10 DCI-P3 เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD นะครับ แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดำสนิทแบบพวก OLED แต่ก็เป็นหน้าจอที่ดีอีกตัวจากทาง Nokia เลยแหละ หน้าจอนั้นทำออกมารองรับการใช้งานทั้งที่มืดและสว่างได้ดี สู้แสงได้ดีเลยรวมถึงตัวคุณภาพของหน้าจอสีทำได้แม่นยำและสวยงามธรรมชาติและมีความคมชัดตามระดับของ FHD+ รองรับมุมมองเอียงๆได้ดีไม่มีเพี้ยนแต่จะเจอแค่สีดำเวลามองมุมอื่นๆอาจจะไม่ได้ดำสนิทครับซึ่งเป็นปกติของจอแบบนี้ จริงๆหน้าจอไม่มีอะไรขัดใจ มีแค่รอยบากบนหน้าจอที่มันใหญ่มาก มากเกินไปในสมัยนี้ เสียดายแค่นี้แหละ แต่ถ้ารุ่นใหม่เป็นแบบเจาะรูแล้วก็น่าสนใจขึ้นเยอะเลยนะ

SOUND 

ในเรื่องของระบบเสียงนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเสียงที่สามารถใช้งานผ่านแจ๊ค 3.5มม.ได้ เสียงที่ทำออกมาค่อนข้างธรรมดากลางๆครับ ก่อนอื่นเรามาลองตัวหูฟังแถมกันก่อนเลยหูฟังแถมเป็นแบบ IN-EAR แต่ถือว่าเสียงดีกว่าที่คิดนะ เพราะรุ่นก่อนๆเสียงมันไม่ได้ดีเท่าไร แต่รุ่นนี้เสียงไม่แสบหูไม่แหลมจัดแล้วครับ คือเอามาฟังเพลงแก้ขัดได้เลยแหละ แม้จะเปิดเสียงสุดครับ แต่ที่ต้องยอมรับคือเสียงไม่ได้มิติดีและรายละเอียดไม่ได้ดีเท่าไรครับ โดยรวมๆ จุดนี้แอบดีกว่าที่คิดครับ เสียงเบสถือว่ามาดีอยู่นะนุ่มๆแต่ไม่ได้สะใจอะไร ตัวหูฟังมันทำจากพลาสติกเลยเบาใส่สบายดีเหมือนกัน  ส่วนเสียงขับออกมาจากแจ๊ค 3.5มม.จากที่ลองกับหูฟังประจำนั้นเสียงทำได้กลางๆไม่ได้เด่นอะไรมากนักแรงขับพอใช้ได้ครับ ย่านต่ำค่อนข้างมาน้อยไปนิด แต่ก็ดีกว่าบางยี่ห้อในราคาหมื่นต้น แต่ถ้าเทียบกับคู่แข่งในงบ 11-15K อาจจะมีบางตัวที่ดีกว่าครับและ Nokia ไม่สามารถปรับ EQ ในตัวได้เลยนั้นเอง ส่วนลำโพงเดี่ยวนั้นมี Smart PA ช่วยในจุดนี้เสียงก็พอใช้ได้ดังกว่าคู่แข่งนิดหน่อย แต่มิติเสียงไม่ดีเท่าไรครับเป็นปกตินะ เน้นความดังมากกว่าเวลาเสียงเรียกเข้าจะชัดเจนเลยครับ และ เพลงเวลาฟังจะได้ยินรายละเอียดบางอันที่ดีกว่าเพราะมันขับได้มากกว่า

GAMING 

ส่วนเรื่องการเล่นเกมส์ Nokia 8.1 ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดีบว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทัสที่ตอบสนองได้ดี หลังจากที่ทดสอบเล่นเกมส์ Pubg Mobile สามารถปรับภาพได้ระดับ HD ค่า FPS ค่อนข้างลื่น ส่วนใครที่ชอบเล่นภาพระดับ ” ดี ” ก็สามารถปรับค่า FPS ได่ระดับ Ultar ส่วนเกมส์ ROV หลังจากที่ทดสอบค่า FPS วิ่งอยู่ร้าวๆ 54-60 FPS เอาเป็นว่ามาชมคลิปทดสอบกันก่อนดีกว่าครับสำหรับใครที่ชอบเล่นเกม

GPS

การทดสอบ GPS ในแง่ของการนำทางและใช้งานจริงๆ อันนี้ได้ทดลองใช้งานจริงๆทั้งต่างจังหวัดและในกทมตามอุโมงค์และใต้ทางด่วน จุดนี้เป็นจุดแข็งอีกจุดของค่ายนี้ได้เลยก็คือการใช้งานนั้นแม่นยำและตามได้ดีมากๆนำทางได้ดีจริงๆทั้งใช้ความเร็วสูงหรือในเมืองที่หนาแน่นก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาครับจับได้ไวและไม่หลุดหันหัวตามได้ดี ค่ายนี้ทำได้ดีมาเรื่อยๆนะจุดนี้ จากการทดสอบจับได้ 23 จาก 42 ดวง กลางแจ้ง และ ที่ร่ม 22 จาก 35 ดวงถือว่าใช้ได้เลยครับ

BATTER

แบต 3,500 mAh ถือว่าดูน้อยเมื่อเทียบกับหน้าจอ CPU อะไรทั้งหลาย แต่ใช้งานจริงๆมันอึดนะ น่าจะด้วยระบบ Android One ช่วยในจุดนี้ได้ค่อนข้างดีและตัวเครื่องก็จัดการพลังงานได้ดีมากๆครับ แบตใช้งานได้ทั้งวันเลย อันนี้ขอบอก นอกเหนือจากภาพนะครับเพราะว่านับจาก 100% เลยจนมาถึง 15% จาก 8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มประมาณ 13 ชั่วโมง แบตเหลือ 13% ใช้งานหน้าจอทั้งหมด 5-6 ชั่วโมงถือว่าใช้ได้ครับ อึดมากๆ และรองรับชาร์จไว 18W ด้วยครับในตัวนี้ หลักๆจะใช้งานนำทางและเปิดเพลง ถ่ายรูปพวกนี้ครับ แต่มันขึ้นแค่ครึ่งเดียวเลยอาจจะงงๆหน่อยจากในภาพ

CAMERA

ตัวนี้มาพร้อมกับกล้องหลังคู่  12MP( f/1.8, 1/2.55″, 1.4µm, dual pixel PDAF) + 13MP , OIS + EIS และแน่นอนว่ามีการใช้เลนส์ ZEISS เข้ามาด้วยในกล้องหลังได้ยินชื่อและสเปคนี้ต้องบอกว่าครั้งนี้เอาเรื่องเลยแหละ แต่ในการใช้งานจริงๆนั้นมีจุดที่ต้องทำให้แอบผิดหวังหลักๆคือในแง่ของ Software จากทางค่ายที่ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพของกล้องออกมาได้เท่าที่ควร คือไฟล์ภาพมันดีมากๆเลย เอามาแต่งต่อเอามาดึงสีได้ดีมากๆ แต่ระบบของกล้องติดเครื่องมันยังเจออาการหน่วง White balance สีเพี้ยนบ้าง HDR ที่ทำออกมาแปลกๆบ้างครับ ซึ่งก็เจอในหลายๆสภาพแสงเหมือนกันอันนี้น่าเสียดาย แต่ถ้าใช้งานทั่วไปกล้องก็ไม่ได้โดดเด่นออกจากคู่แข่งเท่าไร ทำได้แค่ดี ซึ่งก็เสียดายที่ไม่มีมุมกว้าง หรือเลนส์เทเลเข้ามาทำให้น่าสนใจเท่าไรครับในจุดนี้ กล้องมันเลยยังไม่สุดเท่าที่ควร แต่ที่ลองถ่ายหลายๆภาพถ้าแสงไม่ยาก หรือ แสงเยอะๆก็ทำออกมาได้คมชัดสีสด ตามสไตล์ได้อยู่เหมือนกันนะ

*รูปถ่ายจากกล้องทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ

SELFIES 

กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 20 ล้านพิกเซลแบบ Fix Focus มุมกว้างพอสมควร คุณภาพค่อนข้างโอเคในแง่ความสมจริง มันสมจริงมากๆจนหลายๆคนอาจจะไม่ชอบครับ และสาวๆอาจจะไม่ใช่แนวเลยแหละ กล้องมีลูกเล่นนิดหน่อย สติกเกอร์ แต่งแสงอะไรแต่เอาตรงๆเลยคือมันยังไม่ได้ดีเท่าไรทั้งลูกเล่นและการปรับแสงครับ รวมถึงการปรับหน้าเนียนก็ไม่ค่อยดีเท่าไร อย่างที่บอกว่า Software กล้องยังต้องปรับกันพอสมควร ลองไปดูตัวอย่างภาพถ่ายกันทั้งแสงน้อย กลางคืน และกลางวันแบบเปิดหน้าเนียนๆกับปิดครับ ในแง่ความคมชัดแน่นอนมันทำได้ดีแต่ฟีเจอร์ที่กล้องหน้าหลายๆคนอาจจะชอบเนียนๆ ขาวๆอมชมพู ตัวนี้อาจจะให้ไม่ได้ และมี WB เพี้ยนบ้างครับ ส่วนวีดีโอกล้องหน้า คือดีมากๆอันนี้ต้องชมเลยแหละ นิ่งและทำได้ดีจริงๆ

VIDEO 

การทดสอบวีดีโอในรุ่นนี้ถือว่าสเปคมาดีมากคือรองรับ OIS-EIS อีกทั้งยังถ่ายกล้องหน้าหลังได้พร้อมกัน และยังรองรับการถ่าย 4K ด้วย แม้อาจจะไม่มี 60FPS เลยทั้ง 1080P – 4K แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะในเรทนี้น่าจะหาได้ยากมากครับ แต่การที่มี OIS มาให้อันนี้แหละ ที่คู่แข่งไม่มีมาให้และมันทำได้ดีด้วยนะ การถ่ายแบบ 4K อาจจะไม่ได้นิ่งอะไรมากแต่การมีก็ดีกว่าไม่มีครับ จะเห็นได้ถ้าไม่มี OIS เวลาถือนิ่งๆกับที่จะสั่นกว่านี้ ส่วนการถ่ายหน้าหลังพร้อมกันถือว่าทำได้ดีแต่โอกาสใช้งานจริงน่าจะน้อยอยู่นะ ส่วนการถ่าย 1080P คือนิ่งมากทำได้ดีมาก ทั้งกล้องหน้าและหลังคือนิ่งจริงๆอันนี้ชอบครับ ถ่ายกล้องหน้านิ่งมากเลย ไม่ค่อยเจอค่ายไหนในงบนี้ถ่ายได้นิ่งเท่าไรในกล้องหน้าแต่อันนี้ทำได้

NOKIA 8.1 

” เรือกลาง สเปคใช้ได้ แต่เด่นที่กล้องกันสั่น วัสดุ ความแข็งแรง และ ระบบลื่นไหล “

เป็นเรือกลางของค่ายที่สเปคไม่ได้หวือหวา แต่เน้นใช้งานทั่วไปได้ดีมากๆเพราะระบบที่ลื่นไหล งานประกอบวัสดุที่แข็งแรงไว้ใจได้ รวมถึง กล้องหลังที่ไม่ได้แย่และยังมีกันสั่นมาด้วย เน้นใช้งานทั่วไปให้ลื่นไหล อัปเดตไว แข็งแรงตัวนี้คือตอบโจทย์ แต่ถ้าเน้นกล้องหน้าหลังมากๆ ฟีเจอร์เยอะๆแน่นอนว่า Nokia ไม่ตอบโจทย์ครับ จากที่ลอง Software ยังไม่ดีในแง่ของกล้องหลังแต่ Hardware มันดีมากๆนะ ถ้าเอามาปรับแต่งเองนี่อย่างสวย หรือใช้ Google Camera นี่ลงตัวมากๆ ถ้าปรับส่วนนี้ได้จะโหดขึ้นมากครับ และ ในแง่ของลูกเล่นนั้นอาจจะน้อยกว่าแบรนด์อื่นๆแบบชัดเจนเลยแหละ อาจจะทำให้น่าเบื่อไปเลยสำหรับบางคนครับ และ ติ่งหน้าจอใหญ่ไปมาก

ข้อดี

  • การออกแบบ วัสดุ ความแข็งแรงคือดีมากๆ
  • กล้องหลัง กล้องหน้ากันสั่นทำงานได้ดี
  • แบตอึดมากๆ ใช้ทั้งวันสบาย
  • Android One เรียบง่าย อัปเดตไว ลื่นไหล
  • กล้องหลัง Hardware ทำได้ดี
  • GPS ใช้งานได้แม่นยำ

ข้อสังเกต

  • ติ่งหน้าจอค่อนข้างใหญ่
  • กล้อง Software ยังไม่ดีทั้งเรื่อง WB หน้าตา และ ความหน่วง
  • ไม่รองรับ Triple Slot
  • ระบบค่อนข้างเรียบและไม่มีลูกเล่น

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr 

*รูปถ่ายจากกล้องทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares