PicsArt_08-15-02.56.32-01
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกชาว TechHangOut ทุกๆคนสำหรับกระทู้นี้ผมจะมาเขียนกระทู้สำหรับมือถือที่พึงเปิดตัวไปไม่นานมานี้เเละก็มีกระแสดาม่าว่าเป็นมือถือที่ราคาสูงเพิ่มอีกหน่อยซื้อรุ่นนี้ดีกว่าทำไม? Asus ถึงไม่ใส่ Cpu นี้มาผมจะมารวมจุดเด่นที่น่าสนใจว่าทำไม ? เราต้องซื้อ Asus Zenfone 3  รุ่น Limited Edition สำหรับคนที่กำลังลังเลนะครับ

Screenshot_20160815-041414-01

สำหรับ Asus Zenfone 3 หรือ Asus Zenfone 3 รุ่น Limited Edition นั้นเพื่อนๆหลายคนคงจะรู้กันดีว่าปีนี้ทาง Asus ได้จับเปลี่ยนการเลือกใช้ของหน่วยประมวลผลหรือชีพียูจากเดิมที่รุ่นท็อปเคยใช้หน่วยประมวลผลอย่างชีพียูอย่าง Intel Atom ที่ Asus ได้ทำการผลิตหรือใส่เข้ามาใช้กับมือถือ Zenfone 4,5,6, Zenfone 2 , 2 Deluxe หรือรุ่นอื่นๆ และยังอัดมาทั้งเรื่องของ Rom หรือ Ram ที่เเบบว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียวแบบไม่กักสเปคแต่มากักราคาเเทนก็ว่าได้ซึงทำให้มือถือของ Asus นั้นดูมีราคาที่ต่ำกว่ามือถือในท้องตลาดจนขายกันแบบว่าของขาดกันเลยทีเดียว

Wintel_W8_CPU-Z

แต่มาถึงคิวของ Zenfone 3 นั้นกับมีสาวก Asus บางคนหรือผู้ใช้สมาร์โฟนต่างๆกับออกมาเเสดงความคิดเห็นบนเว็ปต่างๆว่ามีราคาเเพงเพิ่มเงินอีกนิดเล่นรุ่นอื่นดีกว่ายิ่งทำตลาดยิ่งราคาเเพงขึ้น ใส่ Cpu ว่าไม่สมราคาบ้างหล่ะสำหรับครั้งนี้ผมจะมาบอกเหตุผลว่าทำไม Asus Zenfone 3 Limited Edition ขนาด 5.5 นิ้ว ที่กำลังขายอยู่ในท้องตลาด ณ เวลานี้ในราคา 14,990 บาท มันจะคุ้มค่าขนาดไหนหรือจะได้อะไรกับบ้างกับเงินที่เสียไปนั้นเรามาอ่านกันเลยครับ

Screenshot_20160815-034323-01

เริ่มจากตัวดีไซน์ Asus Zenfone  3  Limited Edition นั้นจะมาพร้อมดีไซน์แนวใหม่รอบตัวเครื่องที่เลือกใช้กระจกอย่าง Corning Gorilla Glass ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับด้านหน้านั้น จะใช้กระจกกันรอยอย่าง Gorilla Glass 3 แบบ 2.5 D

Screenshot_20160815-034341-01

ที่มีความหนาเพียง7.69 mm เท่านั้นที่มีดีทั้งการคงทนและความสวยงามอีกด้วยสำหรับตัวเครื่องด้านหลังก็ยังมาพร้อมกับเชนเซอร์สแกนนิ้วมืออีกด้วย

zenfone-3-deluxe-camera

สำหรับ Zenfone 3 Limited Edition นั้นยังมาพร้อมเชนเซอร์กล้องที่ Asus ปรับเปลี่ยนเชนเซอร์กล้องและเลือกใช้อย่าง Sony IMX และก็ยังมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาของ Ui กล้องให้ดูสวยและดูสบายดูให้เหมาะห์กับการใช้งานในแต่ละครั้งที่หยิบมือถือ Zenfone 3 Limited Edition ขึ้นมาถ่ายส่วนเชนเซอร์กล้องหลังนั้น

maxresdefault

ก็จะเป็นเชนเซอร์ของ Sony IMX 298 ซึงมีความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซลเลยทีเดียวและยังมาพร้อมระบบกันสั่นอย่าง OIS แบบ 4-axis อีกด้วยอีกทั้งยังมาพร้อมแฟลชแบบทูโทนเเละเชนเซอร์การจับภาพแบบ PDAF Laser Focus ที่จับภาพเพียง 0.03s  อีกด้วยสำหรับกล้องหลังนั้นยังมาพร้อมค่า F แบบ F/2.0 สำหรับรุ่นนี้สามารถถ่ายวีดีโอแบบความละเอียด FHD 1080p@30fps ได้เท่านั้น และสำหรับกล้องหน้านั้นก็ยังมาพร้อมความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซลและมีค่า F มาถึง F/2.0 เลยทีเดียวและยังอัดวีดีโอได้ถึง 1080P อีกด้วยแค่กล้องก็ต่างเเล้วสำหรับ Zenfone รุ่นเก่าๆที่เคยมีมา

Screenshot_20160815-034604-01

ถ้าจะมาพูดถึงในเรื่องของ Cpu นั้นสำหรับรุ่น Zenfone 3 Limited Edition จะใช้ชิฟประมวลผลอย่าง Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 วิ่งความเร็วแบบ Octa-core 2.0 GHz แบบ Cortex-A53 สำหรับ ถ้าจำไม่ผิด Cpu ตัวนี้ มันจะวิ่งเเบบ Single-Core 900 และ Muti-Core  5000 ถือว่ามีความแรงเลยนะครับและเจ้าตัว Snapdragon 625 ก็ยังเป็นชิฟตัวแรกในซีรี่ 600 ที่มีขนาดชิฟเพียง 14 nm

FB_IMG_1471198368228-01

เท่านั้นถ้าจะเทียบคะแนนของใน Aututu นั้นก็ถือว่าทำคะเเนนได้ถึง 6 หมื่นคะแนนเลยทีเดียวเอาเป็นว่าคะแนนมันไม่ใช้ทุกอย่างนะครับ ( คำพูดของหลายๆคน ฮ่า ) สำหรับกราฟฟิคประมวลผลเกมนั้นก็ยังมาพร้อมกับ Adreno 506 ก็ถือว่ามีดีสำหรับคอเกมส์นะครับอีกทั้งรุ่นนี้ยังใส่เชนเซอร์ต่างๆมาอีกมากมายอย่าง  accelerometer, gyro, proximity, compass  อีกด้วย สำหรับ Zenfone 3  Limited Edition ยังมาพร้อมแรมขนาด 4 GB และมาพร้อมความจำตัวเครื่องขนาด 64 GB ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดถึง 256 GB 

Screenshot_20160815-034403-01

Zenfone 3  Limited Edition มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว มีความละเอียดอยู่ที่ FHD มี ppi สีอยู่ 401 พร้อมความสดของสีจอถึง 500 nit เลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องละเอียดถึง 2K แล้วเเบบนี้Screenshot_20160815-034303-01

สำหรับการใช้งานของแบตเตอร์รี่นั้นรุ่นนี้จะมีความจุอยู่ที่ 3000 mAh ส่วนเรื่องของการชาร์นั้นอุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องจะมีพลังไฟอยู่ที่ 2A และสิ่งที่เปลี่ยนเเละรองรับการใช้งานในอนาคตอีกอย่างก็คือพอต USB แบบ Type C ตอนนี้อาจจะไม่เ็นที่นิยมนักหรือหาซื้อยากหน่อยแต่ในอนาคตไม่ไกลนี้ก็คงจะได้รับความนิยมอย่างเเน่นอน

Screen-Shot-2016-08-03-at-19.30.21-600x490

 สำหรับ Asus zenfone 3 Limited Edition นั้นจะมาพร้อม Full NetCom 3.0 ที่เปลี่ยนจากระบบ dual-standby มาเป็น dual-active โดยจะเป็นระบบ เคลือค่าย แบบ 3G/4G  แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นคือซิมที่สองจะขึ้นเป็นระบบแบบ 3G จากเดิมรุ่นก่อนๆหรือรุ่นอื่นๆบนท้องตลาดจะเป็นเพียง 2G เท่านั้นก็จะดีสำหรับการแก้ปัญหาซิมดับในบ้านเราคือจะเอาซิมอะไรใส่ก็ไม่เป็นผลอีกต่อไป

Screenshot_20160815-034450-01


เรื่องของคุณภาพเสียงสำหรับ Asus Zenfone 3 Limited Edition นั้นยังมีชิพเสียงคุณแบบ Hi-Res ที่มีพลังขับแบบ 24-bit / 192kHz  ก็คงจะถูกใจสำหรับคอเพลงเลยนะครับและมีลำโพงที่ขับออกมาแบบ ระบบลำโพงแบบ แม่เหล็กที่ใส่มาถึง 5 ตัว ช่วยเพิ่มพลังขับของเสียงให้เสียงออกมาดีและมีหลายมิติได้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้นและมีเสียงที่ออกมาได้หลายทิศทางมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย 

z-15-1024x680

สำหรับ Asus Zenfone 3 Limited Edition อีกหนึ่งความน่าสนใจหรือว่าคุ้มค่าเลยก็ว่าได้ ในราคาขาย 14,990 บาทนั้นก็ยังมีหูฟังอย่างดีจากยี่ห่อ Marshall รุ่น Major 2 ที่มีราคาอยู่ประมาณ 4,200 บาท อีกทั้งยังมีประกันในส่วนของหูฟังมาให้อีก 1 ปีอีกด้วย ซึงมีเสียงที่ดีเเละมีดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย ใส่เที่ยวก็สบายหรือว่าใส่อยู่บ้านก็โอเค 

IMAG0706

ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับกระทู้ที่ผมได้เขียนมาทั้งหมดยังไงก็ลองอ่านเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเรื่องในการตัดสินใจของซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้กับตัวเองนะครับมือถือมีเยอะครับเลือกให้ตอบโจทย์กับการใช้งานของตัวเองก็พอและก็ขอโทดสำหรับข้อมูลที่อาจจะผิดพลาดไปบ้างนะครับขออภัยณที่นี้ด้วยสำหรับกระทู้นี้กราบขอบคุณและสวัสดีครับ

ขอบคุณรูปจาก : Youtube Asus ด้วยนะครับ

กระทู้โดย @dmin maxmoreji

Comments กันได้เลย !

Comments

0 Shares